วันนี้ (23 ต.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้จะมีคำสั่งจากสำนักงานเขตราชเทวี ขอคืนพื้นที่จัดกิจกรรมเต้นแอโรบิกในสวนสันติภาพ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยให้ย้ายไปใช้พื้นที่ลานกีฬาพัฒน์ 2 บริเวณใต้ทางด่วนศรีรัช แยกอุรุพงษ์ จัดกิจกรรมแทนในวันที่ 1 พฤศจิกายน เพราะมีความพร้อมเรื่องพื้นที่ มีลานแอโรบิก เครื่องออกกำลังกาย และมุมพักผ่อน
แต่กลุ่มสมาชิกแอโรบิกที่สวนสันติภาพ ส่วนใหญ่ยืนยันตรงกันว่าไม่อยากย้ายไปที่แห่งใหม่ เพราะไม่สะดวกในการเดินทาง และขอความเห็นใจจากผู้อาศัยละแวกนี้ โดยอ้างว่าที่ผ่านมาก็พยายามลดระดับเสียงลงแล้ว แม้สมาชิกบางส่วนจะยอมรับว่าเสียงดังแต่ก็เพียง 45 นาที เท่านั้น
นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการเขตราชเทวี ชี้แจงว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้พักอาศัยจริงประมาณ 2-3 คน และจากการตรวจสอบระดับเสียง พบว่าเสียงดังเกินค่ามาตรฐาน และมีการติดตั้งเครื่องขยายเสียงหรือลำโพง บริเวณลานเต้น 4 ตัว และได้กำชับผู้นำเต้นแอโรบิกว่าให้ลดระดับเสียงไปแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เป็นผล พร้อมยืนยันว่าการให้ย้ายไปที่ลานกีฬาพัฒน์ 2 เป็นแผนย้ายเดิมอยูู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับการร้องเรียนเรื่องเสียงดัง
เรามีแผนจะย้ายอยู่แล้ว ตอนนี้รอให้ลานกีฬาพัฒน์ 2 เสร็จ เราก็จะย้ายทีเดียวเลย เรื่องนี้มีการคิดกันมานานแล้ว
นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า กทม.ให้ความสำคัญกับการจัดพื้นที่ สำหรับคนทุกเพศทุกวัยให้ได้พักผ่อน ออกกำลังกายร่วมกันในเขตเมือง โดยจัดสร้างศูนย์สร้างสุขทุกวัย 41 แห่ง กระจายทั่ว กทม. ซึ่งขณะนี้ มีเพียง 16 แห่ง ที่ยังเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ เพื่อให้บริการนันทนาการกับประชาชน หนึ่งในนั้น คือ เขตราชเทวี ที่มีปัญหาเรื่องการร้องเรียนเสียงดัง จากกิจกรรมเต้นแอโรบิก เกินค่ามาตรฐาน
ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เห็นว่าข้อร้องเรียนนี้สามารถแก้ไขได้ โดยไม่ต้องย้าย หรือยกเลิกพื้นที่กิจกรรมออกกำลังกาย
ผมว่าเรื่องค่าความดังของเสียงมันปรับได้ ให้ ผอ.เขตราชเทวี ไปดูว่าแถวเต้นแอโรบิกยาวแค่ไหน ลดแอมป์ลำโพงให้น้อยลง แล้วกระจายให้มากขึ้นได้หรือไม่ มันมีวิธีหลายวิธี พูดคุยหาทางออกร่วมกัน เรื่องนี้ผมมองว่าเป็นความท้าทายของการบริการการปกครอง
นายแพทย์ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. ระบุว่า สังคมเมืองจำเป็นต้องมีพื้นที่สาธารณะหรือสวนสาธารณะ ให้ประชาชนได้เข้าถึงกิจกรรมทางกาย และนันทนาการ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งเสริมให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตและสุขภาวะที่ดี
สำหรับการวางแผนด้านสภาพแวดล้อม ออกแบบเมือง และพื้นที่สาธารณะที่ใช้ร่วมกัน ต้องมาจากความต้องการ และการมีส่วนร่วมของประชาชน รวมทั้งชุมชนที่อาศัยใกล้เคียง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทับซ้อน ระหว่างสิทธิความเป็นส่วนตัว และพื้นที่สร้างสุขภาวะคนเมือง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
หมอร้อง "แอโรบิก" เสียงดัง ผอ.เขตราชเทวีขีดเส้นย้าย 1 พ.ย.นี้