วันนี้ (8 พ.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ ขสมก.หยุดการดำเนินการตามมติคณะกรรมการบริการ เนื่องจากบริษัท สยามสแตนดาร์ด เอนเนอจี จำกัด ยื่นฟ้ององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่ามติบอร์ด ขสมก.เรื่องการจัดซื้อรถโดยสารที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ หรือรถเมล์เอ็นจีวี จำนวน 489 คันจากกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ที่มีบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) และบริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ชนะการประมูลโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันของ ขสมก.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทำให้ ขสมก.ต้องชะลอการตรวจรับรถโดยสารล็อตที่เหลือจำนวน 389 คัน ตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค.2561 ล่าสุดศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งยกฟ้องและจำหน่ายคดีออกจากสารบบแล้ว โดยศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองการรับมอบรถเมล์เอ็นจีวีไว้ชั่วคราวนั้น ล่าสุดศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งรับฟ้องในคดีดังกล่าวและมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา พร้อมให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขสมก.จะเร่งรับรถเมล์ใหม่ได้ตามเงื่อนไขสัญญา แม้จะมีการหยุดชะงักจากคำสั่งศาลนานถึง 7 เดือน โดย ขสมก.จะพิจารณาขยายอายุสัญญาเฉพาะในเรื่องการซ่อมแซม ซึ่งจะหารือกับกรมบัญชีกลางถึงระยะเวลาที่เหมาะสม
แต่คาดว่าภายในเดือน ธ.ค.นี้จะสามารถรับรถเมล์เอ็นจีวีได้ประมาณ 202 คัน โดยจะแบ่งรับเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกจำนวน 100 คันภายใน 30 วัน และอีก 102 คันจะรับมอบหลังจากนั้น 15 วัน
ส่วนที่เหลืออีก 187 คันจะนัดกำหนดส่งมอบภายในเดือน ก.พ.2562 ซึ่งถือได้ว่าเป็นล็อตสุดท้ายของการรับมอบครบ 489 คัน ตามสัญญาเงื่อนไขและจะเริ่มทยอยจ่ายเงินให้กับบริษัทเอกชนได้ภายในสัปดาห์หน้า โดยจะเป็นการชำระค่ารถ 100 คันแรกที่รับมอบมาตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค.2561 จำนวน 300 ล้านบาท พร้อมกับค่าซ่อมบำรุงรักษา รวมระยะเวลา 7 เดือนที่สัญญาชะลอการซื้อขาย เป็นเงินจำนวน 18 ล้านบาท จากนั้นจะชำระเงินตามกระบวนการภายใน 30 วัน หลังการรับรถแต่ละล็อต โดยได้เตรียมแผนการชำระไว้แล้ว