วันนี้ (11 ธ.ค.2561) นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้หารือร่วมกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชน และตัวแทนผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชน ถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาค่ายาและค่ารักษาพยาบาลสูงเกินจริง เบื้องต้น ทางผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชนเห็นชอบในหลักการที่จะร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า การแก้ไขปัญหาด้วยการเผยแพร่ราคายาที่จำเป็นและค่ารักษาพยาบาลผ่านทางเว็บไซต์กลางและเว็บไซต์ของโรงพยาบาลเอกชนแต่ละแห่ง เพื่อให้ประชาชนได้เปรียบเทียบราคาและตัดสินใจเข้ารับการรักษา โดยในวันที่ 13 เม.ย.2562 โรงพยาบาลเอกชนกว่า 100 แห่ง จะต้องเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์กลางและเว็บไซต์ของโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศพร้อมกัน
สำหรับข้อมูลที่นำมาเผยแพร่จะต้องง่ายต่อความเข้าใจของประชาชน ไม่ใช่เป็นข้อความทางเทคนิค ซึ่งยาที่จะประกาศราคานั้น เบื้องต้น จะมีประมาณ 1,000 รายการ จากทั้งหมดกว่า 5,000 รายการ และจะเผยแพร่ค่ารักษาพยาบาลบนเว็บไซต์ ด้วยเพื่อให้ประชาชนรับทราบราคายาและค่ารักษาและเกิดการเปรียบเทียบ ทำให้โรงพยาบาลเอกชนไม่กล้าคิดราคายาและค่ารักษาที่แพงเกินความเหมาะสม
ทั้งนี้ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ยังกล่าวอีกว่า กรมการค้าภายในคงไม่สามารถบังคับให้โรงพยาบาลเอกชนลดราคาค่ายาหรือค่ารักษาพยาบาลลงมาได้ เพราะต้นทุนไม่ต่างกัน เช่น บริษัทยาจะจำหน่ายยาให้กับโรงพยาบาลรัฐบาลในต้นทุนที่ไม่เท่ากับโรงพยาบาลเอกชน เนื่องจากโรงพยาบาลรัฐบาลมีจำนวนมากกว่าครอบคลุมทั้งประเทศ ทำให้ได้ต้นทุนราคายาถูกกว่า แต่โรงพยาบาลเอกชนบางแห่งไม่มีสาขา บางแห่งมีสาขาเพียง 2-3 แห่ง การซื้อยาจากบริษัทยาหรืออุปกรณ์เกี่ยวกับการแพทย์จะได้รับต้นทุนที่ต่างกับโรงพยาบาลรัฐ