วันนี้ (5 ม.ค.2562) นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานประชุมศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์ และสาธารณสุข หรือ EOC ส่วนกลาง กับศูนย์ EOC ส่วนภูมิภาคในพื้นที่เสี่ยง 16 จังหวัด ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ เพื่อติดตามสถานการณ์พายุโซนร้อนปาบึก ที่ขณะนี้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและเคลื่อนตัวลงฝั่งทะเลอันดามันไปแล้ว
นพ.สุขุม กล่าวว่าโดยภาพรวมผลกระทบของสถานบริการสุขภาพ หลังพายุปาบึกพัดผ่านภาคใต้ มีสถานบริการสุขภาพ 27 แห่ง ใน 4 จังหวัด คือ นครศรีธรรมราช 12 แห่ง สงขลา 10 แห่ง นราธิวาส 4 แห่งและปัตตานี 1 แห่ง ได้รับความเสียหาย เช่น หลังคาและกระเบื้องถูกลมพัดเสียหาย ต้นไม้ และเสาไฟล้มทับบ้านพักบุคลากรทางการแพทย์ แต่ทุกแห่งยังสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ
นอกจากนี้เปิดศูนย์อพยพที่ จ.นครศรีธรรมราช 2 แห่ง คือโรงพยาบาลสิชลมีผู้อพยพ 3,360 คน เป็นผู้ป่วย 360 คนญาติ 800 คน ผู้อพยพ 1,200 คนเจ้าหน้าที่ 500 คน ผู้ติดฝน 500 ราย และโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช มีผู้อพยพ 100 คน มีทีมปฏิบัติการทางการแพทย์ ทีมมินิ-เมิร์ท 5 ทีม จาก สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช เข้าดูแลสุขภาพประชาชนที่ศูนย์อพยพ อ.หัวไทร และ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
ภาพ :Arak Wongworachat
หน่วยบริการเตรียมพร้อมรับพายุปาบึกอย่างเต็มที่ ทำให้ทุกแห่งยังทำงานได้ 100% แม้บางแห่งจะได้รับผลกระทบ และยังเปิดเป็นศูนย์พักพิงให้ผู้ประสบภัย ดูแลเรื่องพัก อาหาร น้ำดื่ม
ขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุข ยังสนับสนุนทรัพยากร ยา และบุคลากรทางการแพทย์ลงพื้นที่ 3 ทีม เช่น ทีมควบคุมโรค ทีมสุขอนามัย และทีมสุขภาพจิต เข้าไปดูแลสภาพจิตใจของผู้ประสบภัย โดยเฉพาะ ซึ่งขณะนี้พบว่าสภาพจิตใจของผู้ประสบภัยยังดีอยู่ พร้อมเฝ้าระวังโรคในกลุ่มทางเดินหายใจ ที่ต้องเจอกับสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง โรคเรื้อรัง และโรคที่เกี่ยวกับทางเดินอาหาร
นอกจากนี้ ยังมีโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช ที่ยังคงต้องเฝ้าระวังเหตุน้ำป่าไหลหลากที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งมีรายงานคาดว่าน้ำป่าจะไหลหลากมาถึงในช่วงค่ำวันนี้
ภาพ: กระทรวงสาธารณสุข
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เดือดร้อนหนัก ! พระ-ชาวบ้านปากพนัง เจอน้ำโคลนท่วมขัง
โซเชียล ชื่นชม "ทีมหมอสิชล" ผ่าตัดคนไข้ท่ามกลางพายุปาบึก