ก่อนหน้านี้ เวเนซูเอลาเคยประสบวิกฤตเศรษฐกิจและภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง จนส่งผลกระทบต่อปากท้องและทำให้ประชาชนไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคนต้องอพยพออกจากประเทศตั้งแต่ปี 2557 วิกฤตเศรษฐกิจและความไม่พอใจต่อการสาบานตนรับตำแหน่งผู้นำเวเนซูเอลา สมัยที่ 2 ของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร เมื่อวันที่ 10 ม.ค.2562 ทำให้เกิดการลุกฮือประท้วงรัฐบาลอย่างดุเดือด
การประท้วงใหญ่ของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเกิดขึ้นในกรุงการากัสและอีกหลายเมืองทั่วประเทศ จนเกิดการปะทะกับตำรวจปราบจลาจล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 13 คนและบาดเจ็บอีกมาก โดยไฮไลต์ของการชุมนุมคือ "ฮวน ไกวโด" ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ลุกขึ้นมาประกาศตัวเป็นรักษาการประธานาธิบดี เพื่อยุติการแย่งชิงอำนาจ จัดตั้งรัฐบาลเปลี่ยนผ่านและจัดการเลือกตั้งอย่างเสรี
ไกวโด ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 10 เมื่อวันที่ 9 ม.ค.2562 และเคยเป็นแกนนำนักเรียน-นักศึกษาเดินขบวนประท้วงต่อต้านรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีอูโก ชาเบซ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะพรรคฝ่ายค้านที่หนุนหลังไกวโด ด้านสหรัฐอเมริกา แคนาดา บราซิล อาร์เจนตินา โคลอมเบีย ชิลี เปรู เอกวาดอร์ และปารากวัย ก็ประกาศสนับสนุนรักษาการประธานาธิบดีของเขาด้วยเช่นกัน ขณะที่คิวบา โบลีเวีย และเม็กซิโก ให้การสนับสนุนมาดูโร
นิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซูเอลา
"มาดูโร" ประกาศตัดสัมพันธ์-สั่งปิดสถานทูตสหรัฐฯ
ท่าทีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอมเริกา ทำให้นายนิโคลัส มาดูโร เกิดอาการไม่พอใจเป็นอย่างมาก ถึงขั้นประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูต โดยขีดเส้นตายให้เจ้าหน้าที่ทูตอเมริกันทุกคนเดินทางออกนอกประเทศ ภายใน 72 ชั่วโมง พร้อมกล่าวหาสหรัฐฯ ว่าพยายามแทรกแซงการเมืองภายใน ด้วยการสนับสนุนพรรคฝ่ายค้านให้ก่อรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลชุดปัจจุบันมาโดยตลอด นอกจากนี้ยังประกาศปิดสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลเวเนซูเอลาในสหรัฐอเมริกาทั้งหมด
ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเวเนซูเอลา ประกาศว่า กองทัพไม่ยอมรับสถานะรักษาการประธานาธิบดีของไกวโดและยืนยันที่จะรักษารัฐธรรมนูญของประเทศต่อไป โดยย้ำว่ามาดูโรเป็นประธานาธิบดีของเวเนซูเอลาโดยชอบธรรมและการกระทำของไกวโด รวมถึงพรรคฝ่ายค้าน ถือเป็นการก่อรัฐประหาร ทำลายประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญของประเทศ
เช่นเดียวกับศาลสูงสุดเวเนซูเอลา ออกมาประกาศแสดงความภักดีต่อมาดูโร เช่นเดียวกับอัยการสูงสุดและประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งเวเนซูเอลา ที่ออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนมาดูโร พร้อมทั้งกล่าวโจมตีไกวโดว่าพยายามจะเข้ายึดอำนาจอย่างไม่ชอบธรรม
ด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่ามาดูโรไม่มีอำนาจสั่งการให้ตัดสัมพันธ์ทางการทูต เนื่องจากสหรัฐฯ แสดงจุดยืนไม่ยอมรับมาดูโรเป็นผู้นำของเวเนซูเอลาอีกต่อไป
สหรัฐฯ ร้องนานาชาติหนุน "ไกวโด" รักษาการ ปธน.
นายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวในที่ประชุมองค์การรัฐอเมริกัน หรือ OAS เรียกร้องให้ประเทศในภูมิภาคละตินอเมริกายอมรับไกวโดในฐานะรักษาการประธานาธิบดีเวเนซูเอลา และร่วมกันประกาศว่ารัฐบาลของมาดูโรได้อำนาจมาอย่างไม่ชอบธรรม
นอกจากนี้ยังระบุว่า สหรัฐอเมริกาพร้อมให้เงินช่วยเหลือเวเนซูเอลา 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยบรรเทาภาวะขาดแคลนอาหารและยา รวมถึงขอให้กองทัพเวเนซูเอลาดูแลวามปลอดภัยของไกวโดและประชาชนชาวเวเนซูเอลาทั้งหมด
ผู้เชี่ยวชาญชี้ "กองทัพ" คือตัวแปรการเมืองเวเนซูเอลา
ผศ.เชาวฤทธิ์ เชาว์แสงรัตน์ อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองละตินอเมริกา มองว่า ตัวแปรของการเมืองเวเนซูเอลาคือ กองทัพ ซึ่งคอยสนับสนุนมาดูโร ทำให้สถานะของรักษาการประธานาธิบดีตกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง
ตอนนี้ใครจะชนะขึ้นอยู่กับกองทัพว่าจะหันไปด้านใด เพราะเวเนซูเอลาเป็นประเทศที่ดึงกองทัพเข้ามามีบทบาทพอสมควร อาจเป็นประเทศเดียวในละตินอเมริกาที่กองทัพมีอิทธิพลค่อนข้างมาก ซึ่งในเวเนซูเอลา กลไกทางการเมืองหลักๆ อยู่ภายใต้การนำของมาดูโร
ผศ.เชาวฤทธิ์ ยังให้ความเห็นถึงการลุกฮือขึ้นมาประท้วงต่อต้านรัฐบาลของมาดูโร สะท้อนให้เห็นถึงความเสื่อมถอยของแนวคิดสังคมนิยมที่ครอบงำเวเนซูเอลามานานกว่า 20 ปีหรือไม่ โดยมองว่าสังคมนิยมตอบโจทย์ปัญหาความเหลื่อมล้ำในเวเนซูเอลา แต่กลไกในการบริหารเพื่อให้ได้เม็ดเงินมารองรับรัฐสวัสดิการที่ว่านี้ถือเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไข
ทั้งนี้ ร้อยละ 95 ของรายได้ที่มาจุนเจือรัฐสวัสดิการมาจากการส่งออกน้ำมันเป็นหลัก พอราคาน้ำมันในตลาดโลกดำดิ่งลงก็ทำให้ทั้งประเทศถลำลึกเข้าสู่ภาวะวิกฤตในทันที
ฮวน ไกวโด ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน
รัสเซีย ประณามชาติสนับสนุนผู้นำฝ่ายค้าน
รัฐบาลรัสเซียประณามชาติที่ให้การสนับสนุนนายฮวน ไกวโด ขึ้นเป็นรักษาการประธานาธิบดี ในความพยายามที่จะแย่งชิงอำนาจจากประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร พร้อมทั้งระบุว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดกฏหมายสากลและนำไปสู่หนทางแห่งการนองเลือด
ขณะที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เตือนสหรัฐอเมริกาไม่ให้ใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงปัญหาในเวเนซูเอลา ซึ่งถือเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย เนื่องจากจะทำให้ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาในละตินอเมริกา โดยรัสเซียจะช่วยปกป้องอธิปไตยของเวเนซูเอลาและหลักการของการไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น
ทั้งนี้ รัสเซียมองเวเนซูเอลาเป็นหนึ่งในชาติพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดในภูมิภาคอเมริกาใต้และให้เงินกู้ยืมหลายพันล้านดอลลาร์แก่เวเนซูเอลา นอกจากนี้ยังให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมน้ำมันและเข้าร่วมการซ้อมรบกับเวเนซูเอลาอีกด้วย