วันนี้ (29 ม.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในช่วงบ่าย พระเถรานุเถระ พระภิกษุและสามเณรบวชใหม่ทั้ง 117 รูป ร่วมสวดมาติกาหน้าเมรุลอยทรงไทย 9 ยอด จากนั้น พระเดชพระคุณธรรมเจดีย์ รักษาการเจ้าคณะภาค 11 วัดทองนพคุณ แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ พร้อมอ่านประวัติของหลวงพ่อคูณ ตั้งแต่เกิดจนถึงวัยบรรพชา โดยได้ออกธุดงค์ทั้งในและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตลอดการบรรพชา 71 พรรษา หลวงพ่อคูณถือเป็นพระผู้ให้ เป็นพระผู้ทรงธรรมและพระผู้เป็นที่พึ่งของประชาชน
พระครูศรีปริยัติพิธาน เจ้าคณะด่านขุนทด เปิดเผยว่า การจัดพิธีประชุมเพลิงสรีรจำลองพระเถรานุเถระหลวงพ่อคูณ อาจจะเป็นครั้งแรกที่มีการเผาสรีรจำลอง คู่ขนานกับงานพิธีที่ จ.ขอนแก่น การจัดงานเป็นไปตามประเพณีของการจัดงานศพพระเถราชั้นผู้ใหญ่ โดยภายในโลงมีผ้าไตรจีวรจากโลงศพหลวงพ่อคูณ ซึ่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ถวายเพื่อประกอบพิธีประชุมเพลิง
แม้ร่างของหลวงพ่อคูณจะอยู่ที่ จ.ขอนแก่น แต่หลวงพ่อคูณเกิดและจำวัดที่วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา จึงเป็นที่มาของการจัดพิธีประชุมเพลิงสรีรสังขารจำลองหลวงพ่อคูณที่นี่ โดยภายในงานมีการแสดงโขนและจะมีการจัดชกมวยในช่วงค่ำ ซึ่งลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่าหลวงพ่อคูณชื่นชอบศิลปะมวยไทยเป็นอย่างมาก
ขณะที่วันนี้ (29 ม.ค.) ประชาชนยังคงทยอยเดินทางมาร่วมพิธีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีประชาชนกว่า 100 คนจากประเทศลาว ที่เลื่อมใสศรัทธาหลวงพ่อคูณ ได้เดินทางมาที่วัดบ้านไร่ด้วยเช่นกัน
ตลอดการบรรพชา 71 พรรษา หลวงพ่อคูณได้สร้างคุณูปการมากมายให้กับบ้านเมือง ทั้งสร้างวิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณปริสุทโธ อ.ด่านขุนทด โรงพยาบาล โรงเรียน รวมถึงบริจาคเงินจัดซื้อรถยนต์ให้หน่วยงานราชการ และแม้หลวงพ่อคูณจะเป็นคนจน แต่ไม่เคยจนในเรื่องของการให้และการบริจาคทาน แม้แต่ร่างกายก็บริจาคให้เป็นวิทยาทานแก่นักศึกษา จึงเป็นเหตุผลทำให้หลวงพ่อคูณเป็นที่เคารพศรัทธาของศิษยานุศิษย์อย่างไม่เสื่อมคลาย