ประธาน กกต.ชี้มี "หลักฐานอันควรเชื่อ" จึงลงมติยุบ ทษช.

การเมือง
21 ก.พ. 62
12:33
9,608
Logo Thai PBS
ประธาน กกต.ชี้มี "หลักฐานอันควรเชื่อ" จึงลงมติยุบ ทษช.
ประธาน กกต.ย้ำในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นธรรมและเป็นกลาง โดยชี้แจงว่าไม่มีเหตุจำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีลงมติยุบพรรคไทยรักษาชาติ เพราะพบ "หลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า" แล้ว

วันนี้ (21 ก.พ.2562) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.เปิดเผยว่า กระบวนการพิจารณาและลงมติยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติเป็นไปตามกฎหมาย โดยอ้างอิง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่บัญญัติเพียงว่า "เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า" จึงไม่มีเหตุจำเป็นต้องตั้งกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง โดยยืนยันว่าปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นธรรมและเป็นกลาง

 

 

สำหรับที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด กกต.รับบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติไว้ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ประธาน กกต.ระบุว่า กกต.มีหน้าที่รับเรื่องไว้ แต่ยังไม่มีการพิจารณา เหมือนการที่บุรุษไปรษณีย์มาส่งจดหมายก็รับไว้ ก่อนที่จะมีการพิจารณาภายหลัง สามารถใช้ดุลพินิจที่รอบด้านมากขึ้นได้ และด้วยคำชี้แจงของพรรคไทยรักษาชาติที่เปิดเผยออกมา ประธาน กกต.ก็ยืนยันที่จะทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งต่อไป

 

 

ประธาน กกต.ยังกล่าวถึงกรณีคุณสมบัติของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่จะขาดคุณสมบัติหรือไม่ หลังจากที่ถูก คสช.แจ้งข้อกล่าวหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และเตรียมพบกับพนักงานอัยการเข้ารับการสอบสวนในวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ว่า ยังไม่ได้รับทราบข้อมูล ต้องไปดูตามหลักฐานข้อมูลข้อเท็จจริง ซึ่งหากมีมูลความผิดตามกฎหมายอาญา อาจต้องมีการรายงานให้ กกต.พิจารณาในเรื่องนี้

 

ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ระบุถึงกรณีที่ กกต.เตรียมชี้แจงคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งจำนวนกว่า 200 คดีว่า เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อที่ก่อนหน้านี้ กกต.ไม่ประกาศรับรองคุณสมบัติบางคน รวมถึงกรณีที่พบว่ามีผู้สมัครบางคนแก้ไขข้อมูลในระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมือง เพื่อให้มีคุณสมบัติครบในการเป็นผู้สมัคร โดย กกต.อาจจะมีการพิจารณาด้วยว่าต้องดำเนินคดีอาญาหรือไม่

 

 

ส่วนกรณีคำร้องยุบพรรคพลังประชารัฐอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลหลักฐาน ก่อนที่จะเสนอที่ประชุม กกต.ในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ ซึ่งต่างกับกรณีคดียุบพรรคไทยรักษาชาติที่มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำผิดตามาตรา 92 จริง กกต.จึงมีอำนาจในการพิจารณาได้ทันที ขณะที่พรรคพลังประชารัฐยังไม่ปรากฏหลักฐานมีเพียงคำร้องที่ยื่นต่อ กกต.เท่านั้น กกต.จึงต้องไปรวบรวมพยานหลักฐานก่อน

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงพฤติการณ์ของพรรคไทยรักษาชาติว่าเข้าข้ายการกระทำเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองอย่างไร ด้วยสาระสำคัญนั้นขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญที่จะวินิจฉัยฉัย จึงย้ำให้ทุกฝ่ายรอฟังคำวินิจฉัย โดยศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคำร้องยุบพรรคไทยรักษาชาติในครั้งต่อไปวันที่ 27 มีนาคมนี้

 

 

ส่วนกรณีบัตรเลือกตั้งจัดพิมพ์แล้วก่อนการประกาศรับรองคุณสมบัติที่ทำให้บางเขตเลือกตั้งจะยังมีหมายเลขของผู้สมัครที่ถูกตัดสิทธิในบัตรเลือกตั้งอยู่ กกต.จะประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นทราบ และหากวันเลือกตั้งยังมีการลงคะแนนในหมายเลขผู้สมัครที่ กกต.ไม่รับรอง บัตรเลือกตั้งใบนั้นก็จะเป็นบัตรเสีย พร้อมกันนี้ เลขาธิการ กกต.ชี้แจงว่าการเลือกครั้งนี้จะยังไม่มีการลงคะแนนผ่านเครื่องอิเล็กทรอนิกส์

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง