พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนกในเรื่องสถานการณ์ทางเศรษฐกิจมากนัก ซึ่งประเทศไทยต้องพึ่งการส่งออกเป็นหลัก จึงจำเป็นต้องกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ ส่วนแนวทางการให้เงินประชาชน 1,500 บาท เที่ยวเมืองรอง อยู่ระหว่างการหารือของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเท่านั้นและยังไม่ได้สรุป เพราะมาตรการต่างๆ ที่ออกมาต้องพิจารณาให้รอบด้าน
รัฐบาลต้องมีมาตรการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งกำลังจะเข้าไตรมาส 2 เพราะถ้าลดลงจะเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบประชาชน จึงต้องหามาตรการที่เหมาะสมและต้องระมัดระวังเรื่องข้อกฎหมายในการจะใช้จ่ายเงินงบประมาณต่างๆ
สศค.เผยขั้นตอนให้เงิน 1,500 เที่ยวเมืองรอง
แม้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกินที่อาจจะรวมถึงการให้เงิน 1,500 บาท เพื่อใช้จ่ายท่องเที่ยวเมืองรองจะยังไม่เข้าสู่การพิจารณาของ ครม.และอาจมีการปรับแก้รายละเอียด แต่ขณะนี้มีการเปิดเผยข้อมูลคุณสมบัติผู้ร่วมโครงการและการลงทะเบียนใช้สิทธิ ซึ่งหากมาตรการผ่านความเห็นชอบจะใช้ได้ทันที
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ขณะนี้ สศค.อยู่ระหว่างหารือกับสำนักงบประมาณเกี่ยวกับเงินที่จะนำมาใช้โครงการพยุงเศรษฐกิจไตรมาส 2 และ 3 โดยจะสรุปให้ได้ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อเสนอครม.วันที่ 30 เม.ย.2562 และใช้มาตรการได้ทันที
ส่วนกระแสข่าวแจกเงินคนละ 1,500 บาท ให้ประชาชน 10 ล้านคนนั้น ขณะนี้ สศค.กำลังดูตัวเลข หากเงินไม่พออาจเหลือ 1,000 บาทต่อคน โดยประชาชนที่เข้าร่วมโครงการต้องมีคุณสมบัติเป็นคนไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป และต้องเที่ยวในจังหวัดรอง 55 จังหวัดที่ไม่ใช่ภูมิลำเนาตามบัตรประชาชน
ซึ่งจะมีการทำเว็บไซต์กลาง เพื่อให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการและต้องเลือกจังหวัดที่จะไปท่องเที่ยว 1-3 อันดับ เพื่อให้รู้ว่าใครมาก่อนมาหลัง กรณีมีผู้มาลงทะเบียนเกินกว่า 10 ล้านคน ให้อยู่ในระบบสำรองไว้ก่อน หากผู้ที่ลงทะเบียนรอบแรกไม่ได้เดินทางไปจริง คนที่สำรองไว้จะได้สิทธิ์แทน
หลังจากลงทะเบียนต้องเดินทางไปยังจังหวัดที่เลือกไว้ภายในช่วงเวลาที่กำหนด เบื้องต้น สศค.กำหนดให้เดินทางท่องเที่ยวภายในไตรมาส 2 คือภายในเดือน มิ.ย. เมื่อเดินทางไปถึงจังหวัดที่เลือกไว้แล้วต้องยืนยันตัวตน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหาวิธียืนยันตัวตน จากนั้นกระทรวงการคลังจะโอนเงินเข้าพร้อมเพย์ที่ลงทะเบียนผูกกับบัตรประชาชน หรือโอนเข้าบัญชีอีวอลเล็ท
ส่วนวิธีการใช้จ่ายเงิน สศค.อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะให้กดเป็นเงินสด หรือใช้จากบัตร เพื่อให้เงินดังกล่าวถูกใช้จริงในเมืองรอง 55 จังหวัด แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากในการตรวจสอบว่ามีการใช้เงินในเมืองรองจริง เพราะหากไม่ใช้ในเมืองรองก็จะเป็นการพยุงเศรษฐกิจไม่ถูกจุด
ภาคท่องเที่ยวแนะรัฐใช้เงินพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
ด้านสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ ให้ความเห็นเกี่ยวกับมาตรการจ่าย 1,500 บาท เที่ยวเมืองรอง ว่า โครงการนี้อาจจะมีส่วนช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวประเทศไทยได้บ้าง แต่นายกสมาคมฯ กังวลว่าจะมีผู้เข้าร่วมโครงการมากน้อยเพียงใด และจะนำเม็ดเงินไปใช้ในธุรกิจด้านใดของเมืองท่องเที่ยวเมืองรอง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจท้องถิ่น หรือธุรกิจขนาดใหญ่ รวมทั้งมีข้อสงสัยว่าจะมีตัวชี้วัดการกระจายรายได้สู่ธุรกิจรายย่อยอย่างไร
จึงเห็นว่ารัฐบาลควรจะนำงบประมาณไปใช้เพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนด้านการตลาด เพื่อสร้างความมั่นใจใหักับประชาชนให้กล้าใช้จ่าย กระตุ้นความมั่นใจในระบบเศรษฐกิจฐานรากควบคู่กันไปด้วย