วันนี้ (4 ก.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และคณะทำงาน กล่าวในการแถลงข่าวการพบหลักฐานสำคัญในคดีการหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ว่า จากการลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่และเมื่อค้นพบชิ้นส่วนของศพแล้วคดีฆาตกรรมก็เกิดขึ้น แต่จะฆาตกรรมด้วยวิธีใด อย่างไร จะต้องรวบรวมหลักฐานต่อไป
ล่าสุด นางอังคณา นีละไพจิตร ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Angkhana Neelapaijit ถึงกรณีดังกล่าว โดยให้กำลังใจครอบครัวและเริ่มต้นคดีฆาตกรรมและซ่อนเร้นอำพรางศพ โดยจะมีอายุความ 20 ปี ดังนี้
#ให้กำลังใจมึนอและครอบครัวในวันที่ยากลำบาก หลังจากที่ DSI แถลงข่าวพบหลักฐานบิลลี่เสียชีวิต จากนี้มือนอและครอบครัวคงจัดงานพิธีศพให้บิลลี่ได้แม้จะไม่มีร่างหลงเหลือให้เห็น ในส่วนคดี พนส DSI ต้องรีบสรุปว่าบิลลี่เสียชีวิตเพื่อเริ่มต้นคดีการฆาตกรรมและซ่อนเร้นอำพรางศพ โดยอายุความควรเริ่มจากวันที่พบหลักฐานนับไปอีก 20 ปี
ในส่วน ป.ป.ท.ซึ่งสอบสวนความผิดของ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานซึ่งอ้างว่าจับกุมบิลลี่เรื่องมีน้ำผึ้งป่าจริง แต่ได้ปล่อยตัวไปทั้งที่ต้องควบคุมตัวไว้ เรื่องนี้ DSI คงต้องสอบสวนต่อเพราะพยานที่เคยให้การว่าเห็นบิลลี่หลังถูกปล่อยตัวได้กลับคำให้การว่าไม่เห็น
ช่วง DSI แถลงข่าวว่าพบหลักฐานชิ้นส่วนกระดูกท้ายทอยถูกเผาด้วยความร้อนสูงในถังน้ำมัน 200 ลิตร และต้องตรวจหา DNA ใน Mitocondria รวมถึงพบเหล็กเส้น 2 ชิ้น มีนักข่าวถามว่า #เหล็กเส้นมีความหมายอะไร แต่ DSI ยังไม่ได้ตอบจึงขอแบ่งปันประสบการณ์กรณี #สมชายนีละไพจิตร นะคะ กรณีสมชาย พบถังน้ำมัน 200 ลิตรเจาะรูลักษณะเดียวกันทั้งสิ้น 4 ถังพร้อมเหล็กเส้นถังละ 2 ชิ้นในพื้นที่และเวลาต่างกัน #เหล็กเส้นตามภาพใช้ขัดด้านบนของถังน้ำมันเพื่อที่เวลาเผาทำลายศพ ศพจะได้ไม่กระเด็นออกมา เพราะเป็นการเผาสด เรื่องนี้คนทั่วไปอ่านยังใจสลาย สำหรับครอบครัวคงไม่สามารถพรรณนาได้
การฆ่าก็โหดร้ายทารุณมากแล้ว การทำลายศพยิ่งทำให้เห็นความโหดเหี้ยม อมหิตไร้มนุษยธรรมมากขึ้นไปอีกยังมีอีกหลายคนที่ยังสูญหายโดยปราศจากการค้นหา #คนก็หาย #กฎหมายก็ไม่มี