วันนี้ (8 ม.ค.2563) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ตามร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2563 ถือว่าขัดกับพ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561 ว่าด้วยการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายให้กับหน่วยรับงบประมาณ ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ และทุนหมุนเวียนที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล แต่การเสนอจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลตามร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 พบจัดสรรให้กับทุนหมุนเวียนที่ไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล ให้กับ 20 กองทุนหมุนเวียน รวมเป็นเงิน 1.97แสนล้านบาท
ทั้งนี้ เนื้อหาของร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 ยังมีประเด็นที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ดังนั้น กังวลว่าหาก ส.ส.ลงมติสนับสนุนหรือผ่านร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 ถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายจงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและทำผิดกฎหมาย โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีอำนาจตรวจสอบและมีระยะเวลาตรวจสอบนานถึง 10 ปี ทั้งนี้ กรรมาธิการฯ เสียงข้างน้อย พยายามท้วงติงและแก้ไขให้ถูกต้องแต่ไม่ได้รับการพิจารณา ซึ่งร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 ถือว่าผิดปกติและจะสร้างปัญหาให้กับสภาฯ
นายวรวัจน์ กล่าวอีกว่า ทำไมต้องทำวิธีการแบบที่ผิดกฎหมาย ส.ส.ลงมติสนับสนุนหรือผ่านร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 ถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและทำผิดกฎหมาย ถ้าส.ส.ผ่าน พ.ร.บ.งบฯ 63 มีโอกาสที่จะถูกปปช.ตรวจสอบได้”
ไม่เคยเห็นกฎหมายงบฉบับไหนที่มีปัญหา การออกกฎหมายที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญไม่ใช่แค่ ส.ส. แต้ข้าราชการ หน่วยงานอาจจะถูกตรวจสอบ เรื่องนี้เคยพูดตั้งแต่ก่อนนำเข้าพิจารณาในสภาฯ