วันนี้ (20 ม.ค.2563) นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ณ สิ้นปี 2562 กบข.สามารถสร้างผลตอบแทนการลงทุนสำหรับสมาชิก กบข.ได้ 5.73% ถือเป็นการตอกย้ำกลยุทธ์เน้นกระจายความเสี่ยงไปยังกลุ่มสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงและความผันผวนต่ำ โดยในปี 2562 สินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูง ประกอบด้วยตราสารทุนโลก 18.38% กองทุนแอปโซลูทรีเทิร์น 13.33% ไพรเวทอิควิตี้ 6.38% และอสังหาริมทรัพย์ 6.16% ขณะที่ตราสารหนี้ไทยและตราสารทุนไทยให้ผลตอบแทน 4.38% และ 2.36% ตามลำดับ
สำหรับปี 2563 กบข.ยังคงนโยบายสร้างผลตอบแทนต่อเนื่องสม่ำเสมอให้กับสมาชิก โดยจะเข้าลงทุนในต่างประเทศกลุ่มสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงและความผันผวนต่ำ โดยประเมินว่าจากการผ่อนคลายความกังวลของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ประกอบกับสภาพคล่องในตลาดเงินโลกที่ยังคงมีอยู่ในระดับสูง จะเป็นปัจจัยบวกส่งผลให้เศรษฐกิจโลกขยายตัวสูงกว่าในปีที่ผ่านมา แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลาง และปัจจัยความไม่แน่นอนจากผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในเดือน พ.ย.ก็ตาม
กบข.ตั้งเป้ากระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ต่างประเทศที่มีความเสี่ยงและความผันผวนต่ำในปี 2563 แต่ต้องได้รับอนุมัติให้ขยายเพดานการลงทุนไปต่างประเทศจาก 30% เป็น 40% ของสินทรัพย์รวม
นายวิทัย กล่าวว่า คาดว่าภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศในปี 2563 จะขยายตัวดีต่อเนื่องจากปี 2562 โดยได้รับอานิสงส์จากการบริโภคในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นอันเนื่องมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อาทิ การประกันรายได้สำหรับเกษตรกร การลดค่าครองชีพของผู้มีรายได้น้อย และมาตรการ "ชิม ช้อป ใช้" เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปี 2563 หลังจากสภาผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณ รัฐบาลน่าจะสามารถออกมาตรการในลักษณะเดียวกันเพิ่มเติม รวมถึงภาครัฐสามารถใช้งบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภคได้มากขึ้น โดย กบข.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2563 จะขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 2.8-3.0% โดยมีอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 1%