แอมเนสตี้ฯชวนทั่วโลกส่งจม.ถึงนายกฯไทย กังวลกรณีจับกุมนศ.กลุ่มดาวดินประท้วงสงบ
วันนี้ (20 มิ.ย.2558) สำนักงานเลขาธิการใหญ่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ออกปฏิบัติการด่วนเรียกร้องสมาชิกทั่วโลก ส่งจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของไทย เพื่อแสดงความห่วงใยกรณีนักศึกษาเสี่ยงจะถูกจับกุม เพราะการประท้วงอย่างสงบ โดยการรณรงค์ดังกล่าว จะมีไปถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2558
หนังสือดังกล่าวระบุว่า ปฏิบัติการด่วน นักศึกษา (กลุ่มดาวดิน) เสี่ยงจะถูกจับกุม เพราะการประท้วงอย่างสงบ ทางการไทยประกาศจะจับกุมนักศึกษา 16 คน เป็นนักศึกษาจากกรุงเทพฯ 9 คน ได้แก่ นายรัฐพล ศุภโสภณ นายรังสิมันต์ โรม นายทรงธรรม แก้วพันพฤกษ์ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว และอีก 5 คน ถูกตั้งข้อหาว่า เกี่ยวข้องกับการประท้วงอย่างสงบเพื่อต่อต้านการทำรัฐประหารบริเวณใจกลางกรุงเทพฯ ในวันที่ 22 พ.ค.2558 หากไม่มารายงานตัวต่อตำรวจในวันที่ 19 มิ.ย. นักศึกษาทุกคนถูกตั้งข้อหาเนื่องจากการประท้วงอย่างสงบ ในโอกาสครบรอบหนึ่งปีการทำรัฐประหารของทหาร เมื่อปี 2557 พวกเขาอาจได้รับโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีและถูกปรับ
นอกจากนี้ยังมีนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นอีก 7 คน คือ นายจตุภัทร บุญภัทรรักษา นายอภิวัฒน์ สุนทรารักษ์ นายพายุ บุญโสภณ นายภานุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์ นายสุวิชชา ฑิพังกร นายศุภชัย ภูครองพลอย และนาย วสันต์ เสตสิทธิ์ ถูกตั้งข้อหาเนื่องจากการประท้วงอย่างสงบบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมืองขอนแก่น เวลา 13.00 น. วันที่ 22 พ.ค.2558 ที่ผ่านมา โดยทั้งหมดประท้วงต่อต้านการทำรัฐประหารเมื่อปี 2557 และการใช้กำลังไล่รื้อชุมชนในชนบทออกจากพื้นที่ เพื่อให้มีการทำโครงการขุดเจาะเหมืองแร่ ทรัพยากรธรรมชาติ และโครงการพัฒนา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.
นักศึกษาทั้ง 16 คนถูกตั้งข้อหาละเมิดคำสั่งห้ามทำกิจกรรมทางการเมืองและการชุมนุมสาธารณะ ในปัจจุบัน การชุมนุมทางการเมืองมากกว่าห้าคน เป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย ถ้าศาลตัดสินว่ามีความผิด พวกเขาอาจได้รับโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีและปรับ
นอกจากนี้ สื่อมวลชนหลายแห่งรายงานว่า โฆษกรัฐบาลแถลงว่า พ่อแม่ของนักศึกษาเหล่านี้อาจมีความผิดตามกฎหมาย หากนักศึกษาไม่มารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ตาม แอมเนสตี้ฯ ระบุข้อความถึงสมาชิกในอีเมล์ด้วยว่า โปรดเขียนจดหมายทันทีในภาษาอังกฤษหรือภาษาของท่านเอง 1.เรียกร้องทางการไทยให้ยกเลิกข้อหาทั้งหมดและยุติการจับกุมบุคคลที่ใช้สิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมอย่างสงบ
2.กระตุ้นทางการไทยให้ยุติการคุกคาม ข่มขู่ และงโทษบุคคลใดที่สนับสนุนบุคคลอื่นที่ใช้สิทธิมนุษยชนของตนอย่างสงบ และ 3.เรียกร้องทางการไทยให้ยกเลิกและแก้ไขกฎหมายและคำสั่งทุกฉบับ ซึ่งมุ่งจำกัดการใช้สิทธิที่จะมีเสรีภาพในการชุมนุมอย่างสงบโดยพลการ ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศไทยสามารถปฏิบัติตามพันธกรณีของกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ