จีนปรับอาคารสาธารณะรองรับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา

โรงพยาบาลหลายแห่งของจีนประสบปัญหาขาดแคลนเตียงและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทำให้ต้องปรับอาคารสาธารณะให้เป็นสถานที่พักฟื้นผู้ติดเชื้อชั่วคราว

วันนี้ (6 ก.พ.2563) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่จีนรับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีอาการไม่รุนแรงกลุ่มแรก เข้าไปรักษาตัวในศูนย์จัดแสดงนิทรรศการนานาชาติของเมืองอู่ฮั่นที่ถูกปรับใช้เป็นโรงพยาบาลสนามชั่วคราว เมื่อคืนที่ผ่านมา

ขณะที่โรงพยาบาลพิเศษหั่วเสินซาน รับผู้ป่วยติดเชื้อกลุ่มที่ 2 ที่มีอายุระหว่าง 23 ถึง 61 ปี หลังจากโรงพยาบาลพิเศษแห่งนี้เปิดให้บริการในวันแรก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่เมืองอู่ฮั่น เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงพยาบาลหลายแห่งกำลังประสบปัญหาขาดแคลนเตียงและอุปกรณ์การแพทย์ แม้ว่าทางการจะปรับใช้อาคารสาธารณะให้เป็นสถานที่รองรับผู้ป่วยแล้วก็ตาม

นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่าทางการเตรียมเดินหน้าปรับอาคารของโรงแรมและโรงเรียนอีกหลายแห่งในเมืองอู่ฮั่นให้เป็นโรงพยาบาลชั่วคราว เพื่อรับมือกับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น

ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 565 คนและมีผู้ติดเชื้อทั่วโลกสูงถึง 28,262 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อในจีนมากที่สุด 28,018 คน ขณะที่ผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสในจีนมี 24,072 คน ผู้ป่วยที่ยังมีอาการหนัก 3,859 คน และมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาและอาการดีขึ้น 1,153 คน

ผู้นำจีนชื่นชม "ฮุน เซน" มิตรแท้ในยามยากลำบาก

ด้านสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ใช้โอกาสในการเยือนจีนอย่างเป็นทางการ เข้าหารือกับสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ที่มหาศาลาประชาคม ในกรุงปักกิ่ง ผู้นำจีน ระบุว่า การเดินทางเยือนของผู้นำกัมพูชาในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงมิตรภาพที่แท้จริง พร้อมทั้งชื่นชมผู้นำกัมพูชาที่คอยสนับสนุนจีนในด้านต่างๆ มาโดยตลอด

นอกจากนี้ ยังได้ย้ำว่า จีนจะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะในการทำสงครามกับเชื้อไวรัสและจะร่วมมือกับทุกประเทศเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาด ขณะที่ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานองค์การอนามัยโลกด้านระบาดวิทยาและการควบคุมโรคติดต่อ ระบุว่า การแพร่ระบาดในเมืองใหญ่ในทวีปเอเชียอาจควบคุมได้ยาก

พัฒนาวัคซีนยังมีอุปสรรค

ด้านบริษัทผู้ผลิตยาในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะนักวิจัยกำลังทดสอบวัคซีนเพื่อรักษาผู้ติดเชื้อและป้องกันการกลายพันธุ์ของไวรัส ขณะที่การนำวัคซีนทดลองไปใช้กับผู้ป่วยอาจเผชิญอุปสรรคหลายอย่าง ทั้งเรื่องของการเพิ่มกำลังการผลิตและการทดสอบทางคลินิกเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้วัคซีน