วันนี้ (25 เม.ย.2563) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ก ประกาศเปิดตัวบริการ 'เมสเซนเจอร์ รูม' เพื่อให้สำหรับการประชุมทางออนไลน์อย่างเป็นทางการ
ภาพจาก Facebook Newsroom
เฟซบุ๊กระบุว่าบริการดังกล่าวจะรองรับผู้เข้าประชุมได้มากสุด 50 คน ซึ่งจะสามารถแสดงผลผู้เข้าประชุมบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะได้ครั้งละ 16 คน ส่วนบนมือถือจะแสดงได้ครั้งละ 8 คน นอกจากนี้บริการดังกล่าวยังสามารถแชร์ลิงก์เพื่อให้คนอื่น ๆ สามารถเข้ามาประชุมได้อีกด้วย
ภาพจาก Facebook Newsroom
ทางเฟซบุ๊กยังระบุระหว่างการแถลงข่าวอีกด้วยว่า ขณะนี้มีผู้ใช้บริการ 'วอทซแอป' และเมสเซนเจอร์ ราว 700 ล้านบัญชีที่ใช้บริการเพื่อโทรพูดคุยกันอีกด้วย
ซึ่งนักวิจารณ์และสื่อต่างประเทศมองว่าการเปิดตัวครั้งนี้ เป็นการเปิดเพื่อสู้กับบริการประชุมแบบกลุ่มบนออนไลน์ที่ถูกพูดถึงและใช้กันมากในเวลานี้ อย่าง 'ซูม' แบบชัดเจน
แม้ซูมจะกลายเป็นสตาร์ทอัปที่ดังชั่วข้ามคืน แต่ก็ใช้เวลานานเกือบ 10 ปีเพื่อมาถึงจุดนี้ โดยล่าสุดเมื่อ 23 เม.ย.2563 ที่ผ่านมา ได้มีรายงานออกมาว่าตัวเลขผู้ใช้งานรายวันอยู่ที่ประมาณ 300 ล้านคนแล้ว ทั้ง ๆ ที่เมื่อปลายปี 62 มีผู้ใช้งานฯ ราว 10 ล้านคนเท่านั้น
แต่แน่นอนว่า สื่อต่างประเทศก็ตั้งข้อสังเกตและพบถึงปัญหาด้านความปลอดภัยและความส่วนตัวในหลายจุด ทำให้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซูมก็ประกาศเปิดตัวแอปพลิเคชันเวอร์ชั่น 5.0 โดยมีการระบุอย่างชัดเจนว่าได้ปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยและความส่วนตัวให้ดีขึ้นในหลายจุด เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2563 ที่ผ่านมา
ภาพจาก Zoom Blog
ส่วนอีกประเด็นที่ท้าทายซูมมากที่สุดหลังจากนี้ ก็คือ การแปลงยอดผู้ใช้ฟรี ให้กลายเป็นยอดผู้สมัครใช้บริการแบบเสียเงิน ซึ่งถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ท้าทายต่อสตาร์ทอัปหลายๆ รายอยู่เหมือนกัน ซึ่งซูมก็อาจจะหนีประเด็นนี้ไปไม่พ้นเช่นกัน
ขณะที่ในตลาดผู้ให้บริการประชุมแบบกลุ่มบนออนไลน์ ยังมีทั้งกูเกิล แฮงก์เอาท์ ที่ล่าสุดเปลี่ยนชื่อเป็น 'กูเกิล มีท' หรือแม้แต่ซิสโกที่ก็มีบริการ 'เว็บเอ็กซ์' ส่วนไมโครซอฟต์ก็มี 'ไมโครซอฟต์ ทีม' และเพิ่งเปิดตัว 'สไกป์ มีท นาว' อีกด้วย
สุดท้ายผลประโยชน์ก็กลับมาอยู่ที่ผู้บริโภค ที่มีตัวเลือกให้ใช้บริการในระหว่างต้องทำงานจากที่บ้านหรือ Work from home เพื่อสู้กับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งอาจจะเลือกใช้บริการฟรีหรือเสียเงินก็สามารถทำได้