วันนี้ (8 พ.ค.2563) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ผู้ต้องหาในคดีที่ร่วมกับพวกรวม 6 คน อุ้มฆ่านายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคดีร่วมกันโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
คดีนี้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งจากการตรวจค้นรวม 21 จุดทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด สอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ให้การรับสารภาพเพียง 1 คน ส่วน พ.ต.ท.บรรยิน ให้การปฏิเสธ และให้การภาคเสธ 4 คน ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนได้นำหลักฐานทางนิติวิทยาศาตร์ส่งตรวจดีเอ็นเอ และผลออกมาเชื่อมโยงกับคำให้การของผู้ต้องห และจุดที่อำพรางศพ ร่วมกับการสอบปากคำพยานบุคคล 111 คน วันนี้จึงรวบรวมพยานหลักฐานและส่งสำนวนคดีให้อัยการพิจารณาสำนวนเพื่อสั่งฟ้องจำนวน 11 แฟ้ม รวมกว่า 4,000 หน้า ขณะนี้ยังเหลือเวลาการพิจารณาสำนวนอีกประมาณ 10 วัน ตามครบกำหนดฝากขังผู้ต้องหา
สำหรับข้อกล่าวหาที่พนักงานสอบสวนแจ้งกับผู้ต้องหามี 9 ความผิด คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้ใดให้ได้มาซึ่งค่าไถ่, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ถึงแก่ความตาย, ร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป, เป็นซ่องโจรโดยเป็นการสมคบเพื่อกระทำความผิดที่มีระวางโทษประหารชีวิต, ร่วมกันพยายามข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายโดยร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป, ร่วมกันซ่อนเร้นหรือย้ายทำลายศพเพื่อปิดบังสาเหตุการตาย, ร่วมกันกระทำการใด ๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพ และร่วมกันแสดงตนกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยที่ตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น ส่วน พ.ต.ท.บรรยิน ถูกแจ้งเพิ่มอีก 1 ข้อหา คือ สวมเครื่องแบบ หรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน เพื่อให้บุคคลเชื่อว่ามีสิทธิแต่งเครื่องแบบตำรวจ
พล.ต.ต.จิรภพ ยังระบุว่า จากพยานหลักฐานที่ตรวจพบ มั่นใจว่ามีหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 6 คน แม้ว่าจะมีผู้ต้องหารับสารภาพเพียงคนเดียวก็ตาม ส่วนพยานหลักฐานในขณะนี้ยังไม่พบว่ามีผู้เกี่ยวข้องคนอื่น แม้ว่าที่ดินที่เผาศพผู้เสียชีวิตจะเป็นของภรรยา และรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุอุ้มตัวจะเป็นของบุคคลอื่นที่ยืมมาใช้ ก็ยังไม่พบว่ามีส่วนร่วมกับการก่อเหตุ
สำหรับคดีความที่ พ.ต.ท.บรรยิน มีส่วนเกี่ยวข้องขณะนี้พบมี 4 คดี คือ คดีปลอมเอกสารสิทธิ์โอนหุ้น ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 8 ปี และกำลังขยายเวลาอุทธรณ์ไปถึงวันที่ 19 มิ.ย.นี้ คดีฆ่าอำพรางนายชูวงษ์ ศาลจังหวัดพระโขนง นัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ คดีร่วมกันฟอกเงินโอนหุ้นให้กับผู้อื่นมีผู้ต้องหา 5 คน กำลังนัดสั่งฟ้องกับอัยการ และคดีที่เพิ่งเกิดเหตุไปล่าสุดที่กำลังเตรียมส่งฟ้องอัยการเช่นกัน