วันนี้ (21 พ.ค.2563) นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการดำเนินการมาตรการเยียวยา 5,000 บาท ณ วันที่ 20 พ.ค.2563 สำเร็จเรียบร้อยแล้ว ร้อยละ 99 ในส่วนที่ยังคงเหลืออีกเพียงร้อยละ 1 คือการดำเนินการในส่วนที่ยังตกค้างเกี่ยวกับการขอทบทวนสิทธิ 2.4 แสนคน โดยมาตรการเยียวยา 5,000 บาท มีผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 28.8 ล้านคน มีการลงทะเบียนซ้ำ 4.8 รายการ และลงทะเบียนไม่สำเร็จ 1.7 ล้านคน ทำให้มีผู้ลงทะเบียนที่เข้าสู่ขั้นตอนการคัดกรองตามหลักเกณฑ์ จำนวน 22.3 ล้านคน มีผู้ผ่านเกณฑ์ 15 ล้านคน ไม่ได้รับสิทธิ 7 ล้านคน และอยู่ระหว่างการดำเนินการทบทวนสิทธิ 2.4 แสนคน
คาดโอนเงินเยียวยาครบถ้วนในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ผ่านเกณฑ์ 15 ล้านคน โอนเงินเยียวยาแล้ว 14.2 ล้านคน ส่วนที่เหลือจะโอนเงินเยียวยาได้ครบถ้วนทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้ โดยมีรอบการโอนวันที่ 21 พ.ค.2563 จำนวน 2.3 แสนคน และวันที่ 22 พ.ค.2563 จำนวน 4.4 แสนคน ซึ่งบัญชีของผู้รับจะต้องไม่มีปัญหาในเรื่องบัญชีไม่ตรงกับชื่อนามสกุลที่ลงทะเบียน บัญชีถูกปิด หรือไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับหมายเลขประจำตัวประชาชน ซึ่งจะเป็นเหตุให้การโอนเงินไม่สำเร็จ
ดังนั้น สำหรับกลุ่มผู้ผ่านเกณฑ์แล้ว แต่ยังติดขัดเรื่องบัญชีสำหรับรับโอนเงินเยียวยา โปรดดำเนินการผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชนโดยเร็ว ซึ่งจะเป็นช่องทางที่สะดวกที่สุด โดยไม่ต้องดำเนินการอะไรเพิ่มเติมอีก กระทรวงการคลังจะมีการตรวจสอบและโอนเงินให้ใหม่เป็นประจำทุกสัปดาห์
จำแนกกลุ่มไม่ได้รับสิทธิเยียวยา 7 ล้านคน
นายลวรณ กล่าวว่า กลุ่มไม่ได้รับสิทธิ 7 ล้านคน จำแนกเป็นผู้ไม่ขอทบทวนสิทธิ 4.8 ล้านคน ผู้ไม่ผ่านการขอทบทวนสิทธิ 1 ล้านคน ผู้ยกเลิกการลงทะเบียนหรือยกเลิกการขอทบทวนสิทธิ 9 แสนคน และกลุ่มที่ขอข้อมูลการประกอบอาชีพเพิ่มเติม แต่ไม่ได้เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมภายในเวลาที่กำหนดประมาณ 3 แสนคน
ก.คลัง เตรียมส่ง SMS แจ้งผู้ขอทบทวนสิทธิ
ส่วนกลุ่มที่อยู่ระหว่างการดำเนินการทบทวนสิทธิ 2.4 แสนคน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1 ของจำนวนผู้ที่เข้าสู่การคัดกรองตามหลักเกณฑ์ ที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ผู้ขอทบทวนสิทธิ 8 หมื่นคน จะได้รับการติดต่อจากทีมผู้พิทักษ์สิทธิ เพื่อนัดหมายยืนยันตัวตนและตรวจสอบการประกอบอาชีพตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ กลุ่มที่ 2 ประมาณ 1 แสนคน เป็นผู้ขอทบทวนสิทธิ ซึ่งเคยได้รับการติดต่อจากทีมผู้พิทักษ์สิทธิแล้ว แต่ไม่สามารถนัดพบได้หรือที่อยู่จริงในปัจจุบันไม่ตรงกับที่ได้ลงทะเบียนไว้ตอนขอทบทวนสิทธิ ทำให้ผู้พิทักษ์สิทธิไม่สามารถเจอตัวได้ และกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มที่ผู้พิทักษ์สิทธิได้พยายามติดต่อไปหาแล้วหลายครั้ง แต่ติดต่อไม่ได้จำนวน 6 หมื่นคน
สำหรับผู้ขอทบทวนสิทธิในกลุ่มที่ 2 และ 3 จำนวน 1.6 แสนคน กระทรวงการคลังจะมีการส่ง SMS แจ้งให้ทราบอีกครั้ง และขอให้ไปติดต่อที่สาขาธนาคารกรุงไทยที่สะดวกที่สุด เพื่อยืนยันตัวตนและการประกอบอาชีพ โดยนำบัตรประชาชนตัวจริงไปแสดงพร้อมหลักฐานการประกอบอาชีพได้จนถึงวันที่ 29 พ.ค.2563