เด็กนักเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อำนาจเจริญ ฝึกทักษะการเล่นฟุตบอลแทบทุกวัน เพราะพวกเขามีความฝันอยากเป็นนักกีฬาทีมชาติ ไม่ต่างจากเด็กในวัยเดียวกัน แต่กลับมีเหตุต้องดับฝันและโอกาสของพวกเขาตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น เพราะสนามฟุตซอล งบประมาณ 5 ล้านบาท กลับไม่สามารถใช้งานได้จริง
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2560 ในขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียนคนหนึ่งกำลังเขียนจดหมายลาตาย ถ้าเสียงจากปลายสายโทรศัพท์คนสำคัญไม่สามารถหยุดยั้งความคิดนั้นไว้ได้ ก็คงไม่มีเขาในวันนี้ ทุกข์จากการกระทำที่ขาดเจตนาทุจริต กัดกร่อนจิตใจ เขายืนยันว่าไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว แต่การเซ็นตรวจรับสนามสร้างความเสียหายต่อภาครัฐ มูลค่าเกือบ 2 ล้านบาท ทำให้เขาถูก ป.ป.ช.ตั้งข้อกล่าวหาทุจริตในหน้าที่ ทำให้ประวัติการทำงานที่สั่งสมมาต้องมัวหมองเพียงชั่วข้ามคืน
เมื่อ สตง.และ ป.ป.ช.ตรวจสอบโครงการสร้างสนามฟุตซอล 17 จังหวัด 356 โรงเรียนในภาคอีสานและภาคเหนือ จากงบแปรญัตติ 2555 พบการฮั้วประมูลทุจริตแทบทุกจังหวัด โดยมีนักการเมือง ข้าราชการ และเอกชน ร่วมกันทุจริตเชิงนโยบายอย่างเป็นระบบ
แม้ครูในหลายจังหวัดจะยังไม่ถือว่าเป็นผู้กระทำความผิด เพราะศาลยังไม่ตัดสินคดี แต่การต้องตกอยู่ในภาวะจำยอมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการทุจริต ได้สร้างความรู้สึกลดทอนศักดิ์ศรีของความเป็นครู
หากโครงการสร้างสนามฟุตซอลไม่ถูกซื้อขาย ตั้งแต่ระดับนโยบายจากพรรคการเมือง จะสานฝันนักเรียนและครูผู้ทำหน้าที่เป็นเรือจ้างส่งลูกศิษย์ไปให้ถึงฝั่งฝัน ด้วยสนามฟุตซอลอย่างสวยงาม คดีนี้จึงเป็นที่จับตาของสังคมอีกครั้งว่านักการเมืองจะรอด หรือครูจะต้องก้มหน้ารับชะตากรรมอย่างโดดเดี่ยวต่อไป