วันนี้ (14 ต.ค.2563) ศาลอาญาธนบุรีพิพากษาคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือ ลัลลาเบล เมื่อช่วงเเดือน ก.ย.2562 โดยนายรัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือน้ำอุ่น จำเลยที่ 1 ให้ลงโทษฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังถึงแก่ความตายซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักสุด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 โทษจำคุก 8 ปี
ส่วนพวกสนับสนุน ได้แก่ นายชัยพล พรรณนา เจ้าของงานปาร์ตี้บ้านบางบัวทอง จำเลยที่ 2, นายนที สถิตพงษ์สถาพร จำเลยที่ 3, น.ส.พิกุลทอง บุญภา แฟนสาวของคิว จำเลยที่ 4, นายกฤษฎา โลหิตดี จำเลยที่ 5, นายโกเศศ ฤทธิ์นิธิฤกษ์ จำเลยที่ 6 มีความผิดฐานสนับสนุนกักขังหน่วยเหนี่ยวเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 5 ปี 4 เดือน ให้จำเลยทั้ง 6 คน ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วม จำนวน 748,660 บาท
แม้จำเลยทั้ง 6 จะให้การปฏิเสธ แต่แม่ของ น.ส.ธิติมา ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการ และยื่นคำร้องขอให้จำเลยทั้ง 6 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน โดยศาลสืบพยานโจทก์และโจทก์ร่วม รวม 30 ปาก สืบพยานจำเลย รวม 6 ปาก ซึ่งมีพยานโจทก์เบิกความยืนยันในชั้นศาล สอดคล้องกับคำให้การชั้นสอบสวน ภาพจากกล้องวงจรปิด คลิปวิดีโอจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ของจำเลยทั้ง 6 คน บันทึกการสนทนาในแอปพลิเคชันไลน์ รายงานผลการสืบสวนพฤติกรรมของบุคคล บันทึกการชี้ตัวของพยานซึ่งได้กระทำทันทีหลังเกิดเหตุ ผลการชันสูตรพลิกศพ
นอกจากนี้ ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการจึงน่าเชื่อว่า จำเลยที่ 1 ได้กระทำอนาจารผู้ตาย โดยใช้กลอุบายหลอกล่อให้ผู้ตายดื่มสุราในปริมาณมาก เพื่อให้ผู้ตายหมดสติอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และได้พาผู้เสียชีวิตซึ่งหมดสติขึ้นรถยนต์ไปที่คอนโดของจำเลยที่ 1 โดยมีเจตนาที่จะล่วงละเมิดทางเพศผู้เสียชีวิต