กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Wongsarut Wanabunyanon ตั้งคำถามถึงการเปลี่ยนชื่อโบราณสถาน สถานที่สำคัญใน Google Maps ประเทศไทย เช่น อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ซึ่งทำเกิดความสับสน รวมทั้งบางสถานที่อยู่ในเขตแดนของไทย แต่กลับย้ายเข้าไปอยู่ในดินแดนเขมร และมีการเปลี่ยนชื่อใหม่ทั้งหมด
วันนี้ (6 พ.ย.2563) ไทยพีบีเอสออนไลน์สัมภาษณ์นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ประสานงานไปยัง Google Maps ประเทศไทยเพื่อเร่งแก้ไขปัญหานี้ ถึงแม้ว่าจะยังไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อโบราณสถาน แต่ถือเป็นการบิดเบือนข้อมูลและสร้างความสับสนกับประชาชน และนักท่องเที่ยว
เห็นข้อมูลแล้วไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งประสานให้ Google Maps แก้ไขข้อมูลที่ผิดเพี้ยนนี้ เพื่อป้องกันความสับสน พร้อมประสานให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ช่วยตรวจสอบหาคนที่บิดเบือนชื่อ ว่าเข้าข่ายผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ เพราะกฎหมายกรมศิลปากร เอาผิดไม่ได้ เพราะไม่พบความเสียหายต่อโบราณสถาน
ห่วงคนสับสน-กระทบมรดกโลก
ด้านวงศรุต บุญยานนท์ นักท่องเที่ยวผู้โพสต์เฟซบุ๊ก กล่าวว่า หลังจากไปเที่ยวกลุ่มปราสาทหินทางอีสานใต้ พบว่าชื่อโบราณสถานของไทย เช่น ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ถูกเปลี่ยนเป็นชื่อเป็นปราสาทดำเร็ยครบ ส่วนปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และถูกเปลี่ยนด้วยมีการเติมคำว่า "ลึงพรหม" เข้าไป ทั้งที่ไม่ได้ติดชายแดนกัมพูชา ทำให้รู้สึกแปลกใจ จนกระทั่งจะไปเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จ.สุโขทัย ก็ลองเข้า Google Maps ค้นหาสถานที่ไปเที่ยว ก็พบลักษณะเดียวกัน มีการเติมคำว่า "ลึงพรหม" เข้าไป
ยกตัวอย่างวัดช้างล้อม สุโขทัย เปลี่ยนเป็นโบราณสถานวัดลึงพรหมช้างล้อม ในฐานะนักท่องเที่ยวรู้สึกงง เกิดความสับสนต่อการค้นหา และมองว่าเสียหายต่อมรดกโลก เพราะที่ไม่ตรงกับชื่อที่กรมศิลปากร และถ้าไม่แก้ไขอาจจะเป็นปัญหาในอนาคตได้
นอกจากนี้ ยังได้ประสานสอบถามไปทางกรมศิลปากร เพื่อแจ้งเรื่องดังกล่าว เพราะไม่ใช่แค่โบราณสถาน แต่ยังมีวัดหลายแห่งในกทม.ที่เจอเปลี่ยนชื่อไปแบบผิดๆ อยากให้เปลี่ยนชื่อให้กลับมาตรงกับชื่อที่ได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานไว้ พร้อมเชิญชวนหากใครอยู่ใกล้บริเวณโบราณสถานแห่งไหน ที่ถูกเปลี่ยนชื่อดังกล่าวแล้ว โปรดช่วยกันแก้ไขโดยการใส่รูปถ่าย และแก้ไขชื่อให้กลับมาดังเดิม