ประชุมอาร์บีซีมีมติขยายความร่วมมือในพื้นที่ชายแดนทุกด้าน
พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 และ พล.อ.เจียมอน ผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 กองทัพกัมพูชาประธานร่วม การประชุมกรรมการชายแดนภูมิภาคไทย-กัมพูชา หรือ RBC ครั้งที่15 ที่จังหวัดนครราชสีมา มีมติร่วมกันในการขยายความร่วมมือในพื้นที่ชายแดนในทุกด้าน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
โดยระหว่างการประชุม RBC ไทยและกัมพูชาได้จัดประชุมนอกรอบคู่ขนานกันไป โดยมี พล.อ.เนียง พาส รัฐมนตรีช่วยกลาโหมของกัมพูชาหารือกับ พล.ท.ธวัชชัย และได้กรอบการทำงานร่วมกันถึงแนวทางและห้วงเวลาในการปรับกำลังทหารรอบพื้นที่เขตปลอดทหาร และการทำงานของผู้สังเกตการณ์จากอินโดนีเซีย เข้ามาสังเกตการณ์การปรับกำลังในพื้นที่ และจะมีการนำข้อเสนอที่ได้ ส่งให้กรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ GBC พิจารณาให้ความเห็นชอบในการประชุมที่กรุงพนมเปญในเดือนหน้า โดยกองเลขาธิการของทั้ง 2 ฝ่ายจะหารือในรายละเอียดร่วมกันอีกครั้ง
นอกจากนี้ในที่ประชุมคู่ขนาน ยังมีข้อเสนอให้เปิดปราสาทพระวิหาร สำหรับนักท่องเที่ยวจากฝั่งไทย สามารถเดินทางขึ้นไปบริเวณตัวปราสาทได้ โดยในช่วงปลายเดือนนี้จะมีการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ชายแดนของทั้งไทยและกัมพูชา เพื่อพิจาณาในเรื่องดังกล่าวร่วมกัน
ส่วนปฏิกิริยาของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย- กัมพูชา อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยเฉพาะชาวบ้านภูมิซรอล ตำบลเสาธงชัย จับกลุ่มพูดคุยถึงผลการประชุม RBC โดยบอกว่าการประชุมในครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ หลังจากชาวบ้านตามแนวชายแดนได้รับผลกระทบจากปัญหาข้อพิพาทเรื่องเขตแดนมานานกว่า 3 ปี
ทั้งนี้ชาวบ้านบอกว่าอยากให้ไทยและกัมพูชามีข้อตกลงร่วมกันในการเปิดให้ขึ้นชมปราสาทพระวิหารในฝั่งไทยเพราะจะสร้างอาชีพและรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น แต่ยังกังวลเรื่องการถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาทตามคำสั่งของศาลโลก ซึ่งต้องมีความชัดเจนในแนวทางปฎิบัติเพราะเกรงว่าชาวกัมพูชาจะรุกล้ำเข้ามาตั้งบ้านเรือนในฝั่งไทย รวมทั้งเห็นด้วยหากมีการให้ตำรวจตระเวณชายแดนขึ้นไปรักษาความปลอดภัยในพื้นที่แทนหากมีคำสั่งให้ถอนทหาร