วันนี้ (10 ก.พ.2564) ราคาน้ำมันปาล์มขวด 1 ลิตรที่นิยมใช้ในครัวเรือนในซูเปอร์มาร์เก็ต ปรับราคาขึ้นสูงถึงเกือบขวดละ 50 บาท อาจกระทบกับแม่บ้าน รวมถึงผู้ประกอบการร้านอาหาร เเต่สำหรับเกษตรกรเป็นเรื่องดีเพราะราคาผลปาล์มแพงขึ้นมากกว่า 2 เท่า ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จึงส่งผลถึงน้ำมันปาล์มที่ใช้ประกอบอาหารแพงขึ้น
ผู้ประกอบการร้านอาหารแห่งหนึ่ง ระบุว่า ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันปาล์มขึ้นราคาขวดละประมาณ 10 บาท โดยช่วงนี้ราคาอยู่ที่ขวดละ 48-49 บาท จึงต้องการให้รัฐบาลช่วยควบคุมราคา อย่างน้อยให้ลดลงเหลือขวดละ 38 บาท เท่าราคาเดิมที่เคยซื้อ เพราะแม้ต้นทุนจะแพงขึ้น แต่ราคาอาหารกลับไม่สามารถขึ้นได้
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมค้าภายใน ยอมรับว่า ราคาปาล์มที่สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 3 บาท เป็น 7 บาท 50 สตางค์ ทำให้น้ำมันปาล์มดิบปรับเพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 39 บาท และเมื่อผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวดในท้องตลาดมีราคาเพิ่มเป็นลิตรละ 46 ถึง 48 บาท โดยราคานี้อาจส่งผลต่อค่าครองชีพของผู้บริโภคในช่วงสั้น ๆ ก่อนที่ผลปาล์มจะออกเพิ่มขึ้นเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงเดือน มี.ค.นี้
ขอโอกาสนี้ให้ชาวสวนปาล์มมีรายได้เพิ่มขึ้นไปก่อน ส่วนผู้บริโภค กรมการค้าภายในจะประสานผู้ผลิต ค้าส่งค้าปลีก ตรึงราคาให้นานที่สุด โดยหากราคาปาล์มลดลง ทางกรมฯ จะขอให้ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มปรับราคาลงให้สอดคล้องกันด้วย
ราคาปาล์มสูงสุดในรอบ 5 ปี
กระทรวงพาณิชย์รายงานราคาล่าสุด 9 ก.พ.ที่ผ่านมา น้ำมันปาล์มขายปลีกที่สำรวจราคาขนาดขวด 1 ลิตร สูงถึง 46 - 52 บาท ก่อนหน้านี้กรมการค้าภายในแนะนำให้ลองใช้น้ำมันถั่วเหลืองมาทดแทน แต่อาจแทนไม่ได้ทั้งหมด ซึ่งราคาปาล์มที่ดีที่สุดในรอบ 5 ปี ราคาปาล์มล่าสุดอยู่ประมาณกิโลกรัมละ 7 บาท 30 สตางค์ ขึ้นมาเกิน 2 เท่า ถ้าเทียบกับช่วง เม.ย.2563
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังระบุว่า น้ำมันปาล์มไม่ใช่สินค้าควบคุม ไม่กำหนดเพดานราคาแล้ว และไม่ต้องการเข้าไปแทรกแซงราคาน้ำมันปาล์มบริโภค ไม่ต้องการให้กระทบชาวสวนปาล์มที่กำลังขายได้ราคาดี คาดว่าเดือน มี.ค. ผลผลิตจะออกมากขึ้น ราคาจะปรับลงมาเอง
ราคาสูงกว่าตลาดโลก กระทบอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามผู้ผลิต พบข้อมูลว่า ผลผลิตปาล์มขณะนี้มีน้อยผิดปกติ เนื่องจากภัยแล้งเมื่อ 2 ปีก่อน สต็อกน้ำมันปาล์มดิบที่ปกติควรอยู่ที่ 350,000 ตัน ขณะนี้เหลือประมาณ 150,000 ตัน และไม่มั่นใจว่าผลผลิตจะปรับเพิ่มในเดือนหน้าได้จริงหรือไม่ แม้ราคาปาล์มแพง แต่ภัยแล้งทำให้ปาล์มออกผลน้อย เงินประกันรายได้ก็ไม่ได้ ชาวสวนอาจไม่ได้ผลดี ปาล์มแพงส่งผลต่อน้ำมันปาล์มขวดตามบ้านเรือนที่แพงมาก
ขณะเดียวกันยังส่งผลถึงอุตสาหกรรมที่ใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบ เช่น อุตสาหกรรมอาหาร นมข้นหวาน หลายอุตสาหกรรมกำลังพิจารณาว่าจะย้ายออกไปต่างประเทศดีหรือไม่ เพราะราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศตอนนี้ประมาณกิโลกรัมละ 39 บาท สูงกว่าตลาดโลกประมาณกิโลกรัมละกว่า 10 บาท
ที่ผ่านมา มีการผลักดันให้ใช้น้ำมันปาล์มาผสมกับดีเซลมากขึ้น จากบี 3 บี 5 บี 7 ปัจจุบัน มีทั้งบี 7 บี 10 บี 20 ทำให้สัดส่วนการใช้น้ำมันปาล์มในประเทศเปลี่ยนไป จากที่เคยบริโภคและอุตสาหกรรมมากกว่า ขณะนี้กลับมาใช้ในรถยนต์สัดส่วนประมาณ 60% บริโภคเหลือ 40%
ราคาน้ำมันล่าสุดวันนี้ B100 หรือไบโอดีเซลปาล์ม 100% 42 บาท 83 สตางค์ ราคาน้ำมันดีเซลหน้าโรงกลั่นลิตรละ 10 บาทต้น ๆ เมื่อผสมก็ทำให้ราคาสูงขึ้น แต่เมื่อต้องการสนับสนุนการใช้ ก็ต้องใช้เงินกองทุนที่เก็บจากน้ำมันชนิดอื่นมาอุดหนุน สูงสุดบี 20 อุดหนุน 4 บาท 10 สตางค์ต่อลิตร ส่วน B10 ที่ปัจจุบันกำหนดเป็นน้ำมันพื้นฐานดีเซล อุดหนุนลิตรละ 2 บาท 50 สตางค์ แต่สต็อกน้ำมันปาล์มที่อยู่ในภาวะต่ำกว่าปกติ ไม่รู้ว่าจะย้อนกลับไปใช้วิธีการยืดหยุ่นได้หรือไม่ เช่น ลดลงเหลือ B3 B5