วันนี้ (20 มี.ค.2564) ผู้ใช้ทวิตเตอร์ทวีตข้อความวิพากษ์วิจารณ์การประเมินภาษีจากการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศและส่งผ่านไปรษณีย์จนทำให้เกิดแฮชแท็กติดเทรนด์ทวิตเตอร์ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่ระบุว่า กรมศุลกากร ประเมินภาระภาษีและค่าปรับสูงเกินไป และบางส่วนพบปัญหาพัสดุถูกเปิด ทั้งยังมีสิ่งของสูญหาย
ล่าสุด รายงานจากกรมศุลกากร ระบุว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะมีเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรฉกฉวยสิ่งของจากกล่องพัสดุ เนื่องจากในกระบวนการเปิดตรวจพัสดุจากต่างประเทศ มีเพียงร้อยละ 1 ของจำนวนพัสดุทั้งหมด และหากจำเป็นต้องเปิดกล่องจะมีเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ร่วมเป็นพยาน และบริเวณเปิดกล่องพัสดุ ยังติดตั้งกล้องซีซีทีวีทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้
ส่วนการประเมินภาระภาษีนั้น เจ้าหน้าที่ทุกคนจะปฏิบัติตามประมวลระเบียบการประเมินราคา ภาษีศุลกากร และการค้า องค์การการค้าโลก หรือ แกตต์ ซึ่งใช้ราคาซื้อขายจริง หรือหากไม่ใช่สินค้าขาย เจ้าหน้าที่จะหาข้อมูลจากราคาสินค้าที่เหมือนหรือคล้ายกัน จากเว็บไซต์ต่าง ๆ ของต่างประเทศจึงเป็นไปได้ ที่ราคาประเมินภาระภาษี อาจสูงกว่าราคาซื้อขายจริง ซึ่งผู้รับสินค้าสามารถแจ้งให้กรมศุลกากรทบทวนการประเมินใหม่ได้ และพร้อมให้ความเป็นธรรมตามหลักฐาน
ทั้งนี้ ข้อมูจากกรมศุลกากร ปี 2563 กรมศุลกากร จัดเก็บภาษีจากพัสดุต่างประเทศ ประมาณ 700 ล้านบาท จากจำนวนพัสดุจากต่างประเทศ มากกว่า 35 ล้านกล่อง คิดเป็นมูลค่า ไม่น้อยกว่า 2 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้ เป็นพัสดุ ที่ราคาของ ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ประมาณ 27 ล้านกล่อง คิดเป็นมูลค่าของประมาณ 9 พันล้านบาท