วันนี้ (27 ก.ย.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แนวคันดินอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง ทรุดเพิ่มขึ้นเป็น 30 เมตร จากเดิมที่เจ้าหน้าที่ตัดสินใจเจาะคันดิน เพื่อเพิ่มช่องทางการระบายน้ำประมาณ 10 เมตร ไม่ให้น้ำล้นข้ามสันเขื่อน
เทศบาลตำบลบัลลังก์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา จึงต้องเตรียมแผนเผชิญเหตุ พร้อมประกาศแจ้งเตือนชาวบ้านที่ท้ายอ่างให้เก็บของขึ้นที่สูง
ร.ต.ฐนนท์ธรณ์ กวีกิจรัตนา นายกเทศมนตรีตำบลบัลลังก์ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในพื้นที่ของ ต.บัลลังก์ ซึ่งรับน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง อยู่ในขั้นยากลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำที่ออกจากอ่างฯ มีมวลน้ำจำนวนมากไหลลงสู่พื้นที่ด้านล่าง แต่อย่างไรก็ตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมแผนเผชิญเหตุแล้ว
ต.บัลลังก์ เป็นตำบลแรกใน อ.โนนไทย ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง จากมวลน้ำที่ไหลลงสู่พื้นล่าง
อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่างรับน้ำมาจาก จ.ลพบุรี ลำเชียงไกรตอนบน และห้วยสามบาท อ.ด่านขุนทด มวลน้ำที่ไหลมาจากทางตอนบน อัตราการไหลอยู่ที่ 350 ลบ.ม.ต่อวินาที จากที่ลำน้ำรับได้ 30-40 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้น้ำหลากเข้าทุ่งและท่วมบ้านเรือน
หลังจากนี้มวลน้ำเหล่านี้จะไหลไปยังแม่น้ำมูลที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ขณะนี้ศักยภาพของเขื่อนพิมายค่อนข้างจำกัด เพราะมีฝนตกในพื้นที่เหนือเขื่อน และยังมีอีกหลายปัจจัยทั้งการระบายน้ำของเขื่อนทางตอนบน ทั้งเขื่อนมูลบน เขื่อนลำแชะ และเขื่อนลำพระเพลิงที่ระบายลงมาสู่แม่น้ำมูล
เบื้องต้น กรมชลประทานได้จัดการระบายน้ำ ด้วยการชะลอการระบายน้ำจากเขื่อนลำตะคองลงมาสมทบ เพื่อรักษาความสมดุลการไหลของน้ำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยังไม่แตก! “ลำเชียงไกร” ทำนบคันดินพังน้ำเข้าอ่างมากเกิน 151%
ไขคำตอบ 3 ปัจจัยคันกั้นน้ำชั่วคราวเสียหาย อ่างลำเชียงไกร
เช็ก ! 4 อ่างเก็บน้ำเสี่ยงวิกฤตปริมาณน้ำมากเกิน 100%