ถือว่าทำหน้าที่ในการจะเรียกร้องความยุติธรรมให้เสือดำตัวนี้สมบูรณ์ที่สุด
ดร.กณิตา อุ่ยถาวร ผอ.ศูนย์นิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช บอกกับไทยพีบีเอสออนไลน์ หลังคำพิพากษา "คดีเสือดำ" ซึ่งศาลฎีกาพิพากษา "เปรมชัย กรรณสูต" รับโทษจำคุก 2 ปี 14 เดือน
กณิตา พร้อมทีมนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า ถือเป็นหนึ่งในหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ชิ้นสำคัญในการไขปริศนาชิ้นส่วนซากสัตว์ป่าที่พบในที่เกิดเหตุ ประกอบด้วยซากซุปหางเสือดำ ท่อนกระดูก ชิ้นเนื้อ ที่ติดบนเขียง และกระดูกทิ้งในลำธาร รวมทั้งซากไก่ฟ้าหลังเทา ซึ่งถูกนำไปเป็นหลักฐานต่อสู้ในชั้นศาล ยืนยันหลักฐานทางดีเอ็นเอว่า "เสือดำ" ถูกล่าและฆ่าตายในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ไม่ได้ถูกซื้อหรือนำมาจากที่อื่นๆ
เห็นด้วยกับคำตัดสินครั้งนี้ และยอมรับในกระบวนการยุติธรรม แม้ว่าจำเลยจะได้รับโทษทางกาย ด้วยโทษจำคุก เป็นการชดใช้ภายนอก แต่สิ่งสำคัญคือความสำนึกในจิตใจ เป็นบทเรียนที่จะสอนคนอื่นๆที่ยังคิดว่าการล่าสัตว์ป่าเป็นเรื่องเล็กน้อย
ดร.กณิตา ย้ำว่างานด้านนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ถูกนำไปใช้ในการบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะคดีเสือดำ เป็นผลปรากฎที่ตอกย้ำความสำคัญของการใช้ดีเอ็นเอสัตว์ป่า และงานนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่ามาประกอบในสำนวนคดีที่สมบูรณ์ จนนำมาสู่คำพิพากษาครั้งนี้
อ่านข่าวเพิ่ม กรมอุทยานฯ ยืนยันส่งผลนิติฯ สัตว์ป่าถึง "ศรีวราห์"
"เสือดำไม่ตายฟรี" พิสูจน์คนทำผิดต้องมีบทลงโทษ
ขณะที่นายภานุเดช เกิดมะลิ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ให้สัมภาษณ์ว่า คดีดังกล่าวสามารถพิสูจน์ และให้คำตอบกับสังคมได้ชัดเจนมาตลอด 3 ปีว่า คนมีชื่อเสียงในสังคมไม่ได้มีความเหลื่อมล้ำในการถูกพิจารณาโทษ โดยการตัดสินของศาลฎีกา ยังเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ยังถือว่ายืนตามศาลชั้นต้น และศาลอุทธาณ์ ถึงแม้จะลดโทษจำคุกไป 6 เดือน แต่เป็นไปตามปรับปรุงกฎหมายสงวน และคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562
นอกจากนี้ ภานุเดช ยังย้ำว่า คำถามที่ถูกถามมาโดยตลอดว่าจะติดคุกหรือไม่ คนอยากเห็นบทสุดท้ายกับคดีลักษณะเดียวกันคนอื่นในสังคม เพราะถูกมองว่าเป็นเรื่องเหลื่อมล้ำในสังคมคำพิพากษาวันนี้มีคำตอบแล้ว
การจำคุกทันที ไม่รอลงอาญา เป็นสิ่งที่ศาลพิจารณามาตลอดแล้วว่าจำเลยต่อสู้มาโดยตลอด ไม่ยอมรับการทำผิด จึงนำมาสู่การตัดสินหรือไม่ แต่ทั้งหมดเป็นคำตอบที่ว่า เสือดำไม่ตายฟรี เป็นสิ้่งที่พิสูจน์ต่อสังคม
สำหรับภานุเดช ยืนยันว่าโทษจำคุกนายเปรมชัย และพวกที่ร่วมขบวนการล่าสัตวป่า ไม่ค้านสายตาสังคมแน่นอน
เชิงสังคมเขาติดคุกมาตลอด 3 ปีแล้ว เป็นบทเรียนคนที่คิดและอยากจะมีพฤติกรรมแบบนี้
อ่านข่าวเพิ่ม เปิดคำพิพากษา "ศาลฎีกา" สั่งจำคุกเปรมชัย 2 ปี 14 เดือน
WWF ออกแถลงการณ์ชื่นชมกระบวนการยุติธรรม
ด้านเพจเฟซบุ๊ก WWF-Thailand องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล สำนักงานประเทศไทย (WWF ประเทศไทย) ขอแสดงความชื่นชมกระบวนการทางกฎหมายและเจ้าหน้าที่รัฐ ที่สามารถดำเนินคดีผู้กระทำความผิด กรณีการจับกุมนายเปรมชัย พร้อมพวกจำนวน 4 คน เมื่อเดือนก.พ.2561 จนถึงกระบวนการพิจารณาคดีของศาลฎีกา ที่ถือเป็นอันสิ้นสุด ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้
WWF ขอแสดงความชื่นชมกระบวนการยุติธรรม และความเข้มแข็งในการใช้กฎหมายต่อการละเมิดและกระทำผิด ต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยการพิจารณาตัดสินคดี ด้วยความโปร่งใสไม่เลือกชั้นวรรณะ ไม่เลือกสถานะของผู้กระทำความผิด
WWF ประเทศไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คำพิพากษาที่ถือเป็นที่สิ้นสุดในครั้งนี้ จะเป็นตัวอย่าง และเป็นก้าวที่สำคัญของประเทศไทยในการป้องปรามและขจัดกลไกการค้า และการล่าสัตว์ รวมถึงการละเมิดต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างให้เกิดการกระทำความผิดในลักษณะเช่นนี้อ่านรายละเอียดของแถลงการณ์ https://www.wwf.or.th/our_news/news/?uNewsID=371275
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศาลฎีกาพิพากษา "เปรมชัย" จำคุก 2 ปี 6 เดือน ลดโทษให้ 8 เดือน
"เปรมชัย" มาตามนัดฟังศาลฎีกา "คดีเสือดำ" ทุ่งใหญ่
สรุป 3 ปี ก่อนพิพากษา “คดีเสือดำ” ป่าทุ่งใหญ่