วันนี้ (24 ม.ค.2565) พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ในฐานะคณะทำงานแก้ปัญหาจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสนอให้เพิ่มมาตรการคัดกรองผู้ขับขี่ ควรแยกใบขับขี่เป็น 2 ประเภท แยกระหว่างรถธรรมดาและบิ๊กไบค์ ผู้ขับขี่ต้องมีอายุที่เหมาะสมและความสามารถในการควบคุมรถ โดยผ่านการอบรมอย่างเป็นขั้นตอน
นอกจากนี้ยังเสนอให้กรณีตำรวจ หรือผู้ปฏิบัติงานในกระบวนการยุติธรรม หากทำผิดควรได้รับโทษรุนแรงกว่าคนธรรมดาในฐานะคนรู้กฎหมาย
ขณะที่คณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร มีความพยายามผลักดันในเรื่องนี้ ซึ่งเสนอให้แยกใบขับขี่บิ๊กไบค์ และควรบังคับอบรม ไม่ใช่การสมัครใจ นอกจากนี้ยังเสนอให้ใช้มาตรการตัดแต้มสำหรับผู้ขับขี่ที่กระทำผิดกฎหมายด้วย
"นิกร" เสนอแยกใบขับขี่ "บิ๊กไบค์" บังคับอบรม
นายนิกร จำนง รองประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า วันที่ 27 ม.ค.นี้จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจง และเสนอการแก้ไขต่อคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ อย่างเป็นระบบ
และเสนอให้กระทรวงคมนาคมออกกฏหมายแยกประเภทใบขับขี่เฉพาะบิ๊กไบก์ หรือรถจักรยานยนต์ขนาดเกิน 400 ซีซี ต้องมีการอบรม ตรวจสอบสมรรถนะผู้ขับขี่ กำหนดอายุผู้ขับขี่ และพิจารณาบทลงโทษ โดยการอบรมจะเป็นกฎหมายภาคบังคับแทนการสมัครใจ ที่สำคัญให้กรมขนส่งเร่งทำข้อตกลงกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้มีการบังคับใช้กฏหมายตัดแต้มใบขับขี่ในการลดอุบัติเหตุ
ข้อมูลจากวิจัยกรุงศรี ระบุว่า ยอดจำหน่ายจักรยานยนต์ที่มีกระบอกซูบมากกว่า 400 ซีซี ในปี 2020 มียอดจำหน่ายในประเทศ 23,978 คัน ขณะที่ในปี 2021 มียอดจำหน่าย 14,429 คัน แสดงให้เห็นถึงความนิยมที่ยังมีอยู่ แม้สภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัว
อ่านข่าวอื่นๆ
ตำรวจ คฝ.ขี่บิ๊กไบค์ชน "แพทย์หญิง" ยอมรับขี่มาด้วยความเร็ว
เช็กเลย! "ขับรถ-คนเดิน" เปิดข้อกฎหมายฝ่าฝืนจราจรบนทางม้าลาย