วันนี้ (15 ก.พ.2565) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุถึงกรณีที่นายเอกราช ช่างเหลา ย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทยว่า พรรคภูมิใจไทยพร้อมต้อนรับอยู่แล้ว และไม่ทราบว่านายเอกราช มีความเกี่ยวพันหรือถูกตรวจสอบในเรื่องใดมาก่อนหน้านี้ เพราะจากการตรวจสอบใบสมัครก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร และหากมีคดีติดตัวจริงก็ไม่สามารถเป็น ส.ส. ได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ส่วนที่มองว่านายเอกราช มีความสนิทสนมเป็นมือขวาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะมีความเชื่อมโยงประเด็นการเมืองอื่นใดหรือไม่นั้น นายอนุทินระบุว่า ทุกคนเป็นเพื่อนกันทั้งนั้น อาจจะพรรคเดียวกันคนละพวก หรือคนละพรรคพวกเดียวกัน
นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่ได้ดูดส.ส.เข้ามาสังกัดในพรรค เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งใหญ่ โดยกล่าวแบบติดตลกว่า “หนูเปล่านะเขามาเอง” ทั้งนี้จะมีใครเข้ามาสังกัดพรรคภูมิใจไทยอีกหรือไม่ก็แล้วแต่ ซึ่งเมื่อมาถึงชานเรือนก็ต้องต้อนรับ แต่มีสัญญาร่วมกันว่าต้องทำความดี ถ้าใครผิดสัญญาก็ไม่เอาไปด้วย
การที่มีส.ส.ย้ายเข้ามาสังกัดพรรคภูมิใจไทยมากขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับการได้โควตารัฐมนตรีเพิ่มมากขึ้นไปด้วย เป็นคนละเรื่องกัน แต่จะเป็นการพิสูจน์ว่า การมี ส.ส.ในพรรคเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่การกดดันนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันว่าจะอยู่กันอย่างนี้จนจบการทำงานของรัฐบาล ซึ่งขณะนี้เป็นช่วง 12 เดือนสุดท้ายแล้ว
นายอนุทินกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ยังไม่มีสัญญาณการปรับครม. แต่ก็เป็นสิทธิ์ของนายกรัฐมนตรีในการปรับครม.
ขณะนี้มีว่างอยู่ 2 ตำแหน่ง แต่ไม่ใช่โควตาของพรรคภูมิใจไทย และไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหน ไปทวงเพิ่มโควตารัฐมนตรี แต่ช่วยกันทำงาน ซึ่งขณะนี้ปัญหาต่างๆก็ค่อยๆคลี่คลาย โดยเฉพาะปัญหาเรื่องโควิด-19 อาจจะมีปัญหาเรื่องของราคาน้ำมัน ซึ่งต้องช่วยกันแก้ไข
นายอนุทินกล่าวด้วยว่า พรรคร่วมรัฐบาลไม่มีความขัดแย้ง แต่เรื่องการทำงานอาจจะมีความเห็นต่างในระหว่างหน่วยงาน ไม่ใช่ความเห็นต่างในระดับนโยบาย ยืนยันว่าต่ออายุสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ไม่ใช่ประเด็นที่จะนำไปสู่การแตกหักของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะห่างไกลจากจุดนั้นมาก เป็นเพียงเรื่องความเห็นทางกฎหมายที่แตกต่างกัน ซึ่งก็ต้องให้เกียรติกันและให้แต่ละฝ่ายใช้ดุลพินิจของตนเองก็เท่านั้น สุดท้ายขึ้นอยู่กับมติ ครม.