ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

พิพากษายืนจำคุก 99 ปี “วัฒนา” คดีบ้านเอื้ออาทร-ส่งตัวเข้าเรือนจำทันที

การเมือง
4 มี.ค. 65
18:55
1,618
Logo Thai PBS
พิพากษายืนจำคุก 99 ปี “วัฒนา” คดีบ้านเอื้ออาทร-ส่งตัวเข้าเรือนจำทันที
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
พิพากษายืนจำคุก 99 ปี พร้อมสั่งริบทรัพย์ 89 ล้านบาท “ วัฒนา เมืองสุข” อดีต รมว.พัฒนาสังคมฯ คดีทุจริตบ้านเอื้ออาทร โดยส่งตัวเข้าเรือนจำทันที พร้อมออกหมายจับเพิ่มอีก 3 คน ด้านทนาย ระบุนายวัฒนา ยอมรับคำพิพากษา แต่ไม่ได้ยอมรับว่ากระทำความผิด

วันนี้ (4 มี.ค.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงที่องค์คณะอุทธรณ์คดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร อ่านคำพิพากษาการยื่นอุทธรณ์ของนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.กระ ทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีมติเสียงข้างมาก ชี้ความเกี่ยวข้องระหว่างนายวัฒนา และนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง ที่เป็นที่ปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการ แม้นายวัฒนา จะอ้างว่าไม่เคยแต่งตั้ง

แต่องค์คณะอุทธรณ์ ชี้พฤติการณ์ว่าเสียงเปี๋ยง แสดงออกให้เห็นว่าเป็นที่ปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการ โดยมีการส่งเอกสารของการประชุมการเคหะแห่งชาติ ส่งถึงเสี่ยเปี๋ยงว่า เป็นที่ปรึกษาของรมว.พม. พร้อมชี้ว่ามีกระบวนการเรียกรับผลประโยชน์จากคำให้การของผู้ประกอบการ โดยอาศัยการแก้ไข TOR

นอกจากนี้ ยังมีมติเอกฉันท์ว่านายวัฒนา ในฐานะเป็น รมว.พม.เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลการเคหะแห่งชาติ และกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 ในการเรียกรับสินบนกับผู้ประกอบการที่เข้าประมูลโครงการบ้านเอื้ออาทร เป็นการใช้อำนาจโดยไม่ชอบ คำอุทธรณ์ของจำเลยจึงฟังไม่ขึ้น

มีมติเอกฉันท์ เห็นว่าโจทก์ หรือ ป.ป.ช. และอัยการสูงสุด มีอำนาจฟ้องคดีโดยชอบด้วยกฎหมายหลังจากที่ คตส. ไต่สวนคดีผ่านการแต่งตั้งโดยประกาศ คมช.ฉบับที่ 30 เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2549 และการไต่สวน คตส.ก็ชอบด้วยกฎหมาย

ออกหมายจับอีก 3 คน-ส่งตัววัฒนา เข้าเรือนจำ 

อีกประเด็นหนึ่งคือคำอุทธรณ์เรื่องว่าศาล มีอำนาจริบเงินที่ได้จากการกระทำความผิดตกเป็นของแผ่นดินหรือไม่นั้น ศาลปรับแก้จากเดิมว่า ศาลมีอำนาจริบเงินตกเป็นของแผ่นดินโดยอ้างอิง พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีการพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จากเดิมมาตรา 42 และ 43 เป็นมาตรา 33(2) ริบเงิน 89 ล้านบาท โดยจำเลยคือนายวัฒนา นายอภิชาติ และบริษัทเพรสซิเดนส์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ต้องร่วมกันชดใช้เงิน 89 ล้านบาท ภายใน 30 วัน หากเกินจะคิดดอกเบี้ยร้อยละ 7.5

นอกจากนี้ ศาลยังออกหมายจับ น.ส.กรองทอง วงศ์แก้ว และนายรุ่งเรือง ขุนปัญญา พนักงานบริษัท บจก.เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด และนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ที่หลบหนีคดีให้มาฟังคำพิพากษาในวันที่ 27 เม.ย.นี้ เวลา 14:00 น.

มีรายงานว่าในระหว่างการฟังคำพิพากษา นายวัฒนา มีสีหน้าเคร่งเครียด และใช้มือเขียนในบนโต๊ะตลอดเวลา บางช่วงก็เขี่ยมือตัวเองสลับกับมองเพดานห้อง

โดยหลังศาลพิพากษาแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ได้ส่งตัวนายวัฒนา ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และจะเข้าสู่กระบวนการกักตัว 21 วันก่อนที่จะเข้าสู่เรือนจำ โดยนายวัฒนาได้นำเข็มขัดที่ใส่มาให้คนใกล้ชิดนำกลับบ้าน พร้อมสั่งให้คนขับรถนำรถไปซ่อม

ทนายชี้ "วัฒนา" ยอมรับคำพิพากษาแต่ไม่รับว่าทำผิด

นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความของนายวัฒนา กล่าวว่า  ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกันถึงเรื่องการต่อสู้หลังจากนี้ ซึ่งมีประเด็นที่ต้องกลับไปคิด และทบทวน ตั้งแต่ศาลชั้นต้น ถึงชั้นอุทธรณ์ มีการดำเนินการผิดพลาด หรือบกพร่องอย่างไรหรือไม่  โดยได้คุยกับนายวัฒนาภายในบัลลังก์ ยอมรับคำพิพากษา เพราะกติกาของกระบวนการยุติธรรม ไม่มีโอกาสที่จะไม่ยอมรับ แต่การยอมรับคำพิพากษา

นายวัฒนา ยอมรับในคำพิพากษา แต่ไม่ได้ยอมรับว่ากระทำผิด และฝากให้มาบอกว่าการต่อสู้ตั้งแต่ปี 49 จนถึงวันนี้ไม่ได้หลบหนีเป็นการแสดงเจตนาว่ายังเชื่อว่าบริสุทธิ์ แต่นายวัฒนาก็เคารพในการตัดสินของศาลยุติธรรม

ทั้งนี้ ทนายความ ได้กล่าวถึงคำพิพากษา ในประเด็นที่สู้ว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่เป็นเพียงรัฐมนตรี กำกับดูแล การจ่ายเงินกลั่นกรอง เป็นเรื่องของคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ ในส่วนพยานที่เบิกความ เกิดจากการจูงใจ ซึ่งรับฟังไม่ได้ และในส่วนของนายอภิชาติ เป็นปรึกษาของนายวัฒนา หรือไม่ ในเชิงการสืบพยาน 3 ประเด็นดังกล่าว แตะไม่ได้ว่าไปเกี่ยวพันกับจำเลยที่ 1 อย่างไร ซึ่งศาลบอกว่าจำเลยที่ 1 ในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับมีหน้าที่ต้องรู้ และเชื่อว่าควรจะรับรู้ 

เมื่อหมดประเด็นสู้ศาลก็ยืนตามศาลชั้นต้น จำคุกจำเลย 50 ปี ซึ่งในส่วนของการยึดทรัพย์แม้มีอำนาจ แต่ก็ดูขัดกันในทางกฎหมายอยู่บ้าง 

 

ส่วนที่นายวัฒนา ให้สัมภาษณ์ว่าคดีนี้เป็นคดีการเมือง 100% มองว่านายวัฒนาเป็นรัฐมนตรี คงแยกแยะไม่ได้ การที่ศาลฎีกาชุดนี้ ตัดสินโทษเกี่ยวกับการเมืองหรือไม่นั้น ไม่สามารถก้าวล่วง แต่เชื่อว่าตัดสินตามพยานหลักฐานจะมาเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ คำพิพากษาอย่างละเอียดประชาชนจะใช้วิจาร ณญาณเรียบเรียงเองได้ว่าเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่

เมื่อถามว่าคดีที่ถูกฟ้อง โดยคณะกรรมการการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) รอดมาโดยตลอด แต่ทำไมคดีนี้ถึงไม่รอด นายนรินท์พงศ์ กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย และรู้สึกตกใจที่อาจจะผิดพลาด ทำให้วันนี้ไม่ได้เตรียมเสื้อยืด หรืออะไร เพราะมาพร้อมที่จะกลับ แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไปเอาที่ราชทัณฑ์ก่อน

หลังจากนี้จะมีการควบคุมนายวัฒนาไปยังกรุงเทพฯ แม้จะมีการปรับตัวก่อน 21 วัน พร้อมย้ำว่านายวัฒนาเป็นคนเข้มแข็งและไม่พูดจาก้าวล่วงต่อศาลซึ่งได้ขอให้นายวัฒนาได้ตั้งหลักก่อน โดยหลังจากนี้จะประสานกับราชทัณฑ์ถึงการดำเนินการต่อไป เพราะนายวัฒนามีโรคประจำตัวหลายโรค

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศาลฎีกาฯ พิพากษายืนจำคุก "วัฒนา" 50 ปี คดีทุจริตบ้านเอื้ออาทร

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง