วันนี้ (18 พ.ค.2565) ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีมติคงราคาน้ำมันดีเซล ไว้ที่ 32 บาทต่อลิตร อีก 1 สัปดาห์ จนถึง 22 พ.ค.นี้ โดยการต่ออายุลดภาษีสรรพสามิต น้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร อีก 2 เดือน จะไม่มีการนำมาลดราคาหน้าปั๊ม เนื่องจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบถึง 72,000 ล้านบาท จากการชดเชยราคาน้ำมันดีเซล 9.41 บาทต่อลิตร และยังใช้ดูแลราคาก๊าซ LPG
ขณะนี้ราคาน้ำมันมีแนวโน้มจะสูงต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ โดยประเมินว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จะอยู่ที่ 110- 115 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลและราคาดีเซลโลกจะอยู่ที่ 141 - 150 ดอลลาร์สหรัฐบาร์เรล หากราคาน้ำมันยังผันผวนมีโอกาสที่กองทุนฯ จะติดลบทะลุแสนล้านบาท
ทั้งนี้ การปรับลดราคาขายปลีกดีเซล จะต้องให้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับลดลงเหลืออยู่ที่ประมาณ 100-105 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และดีเซลอยู่ที่ 138-140 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก็จะทำให้ภาครัฐสามารถทยอยลดการช่วยเหลือราคาดีเซลลงได้
สภาอุตฯ ชี้ลดภาษีดีเซล 2 เดือน ส่งผลต่อสต๊อกสินค้า
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเป็นเวลา 2 เดือน คงไม่เพียงพอ เพราะทางเอกชนเคยเสนอไว้ 3 เดือน ซึ่งจะมีผลต่อสต็อกสินค้ามากพอสมควร ดังนั้นรัฐควรจะขยายต่อเพิ่มอีก 2 เดือน เพื่อจะทำให้เอกชนสามารถบริหารสต็อกต้นทุน ไม่ให้กระทบต่อราคาสินค้าเพิ่มขึ้น
สหพันธ์ขนส่งฯ ชี้ลดภาษีดีเซลช่วยชะลอขึ้นค่าขนส่ง
ด้านนายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ระบุว่า การขยายการลดภาษี ทำให้การปรับขึ้นค่าขนส่งชะลอออกไปก่อน แต่หากรัฐบาลยังตรึงราคาขายปลีกที่ 32 บาท ค่าบริการขนส่งมีโอกาสปรับขึ้นร้อยละ 15 แต่หากราคาลดลงทุก ๆ 1 บาท ค่าขนส่งจะลดลงร้อยละ 3 ขณะที่ไบโอดีเซลยังมีแนวโน้มราคาสูงมาก สหพันธ์ฯ เห็นควรถอดการผสมกับดีเซลชั่วคราว เมื่อไบโอดีเซลมีราคาต่ำลง จึงค่อยนำกลับมาผสมใหม่
ขณะที่วันพรุ่งนี้ (19 พ.ค.) ปตท.-บางจาก ปรับขึ้นราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน 1 บาทต่อลิตร ขยับแตะ 50.36 บาท ส่วนแก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 42.95 บาท แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 42.68 บาท แก๊สโซฮอล์ E20 ลิตรละ 41.84 บาท แก๊สโซฮอล์ E85 ลิตรละ 35.84 บาท