วันนี้ (23 พ.ค.2565) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. เดินทางไปวิ่งที่สวนลุมพินี ตั้งแต่เวลา 05.30 น. ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ร่าเริง โดยมีประชาชนที่มาวิ่งขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก
นายชัชชาติ ระบุว่า ปกติจะวิ่ง 4 รอบของสวนลุมพินี วันละ 10 กิโลเมตร การวิ่งที่สวนลุมพินีเป็นวิถีชีวิตตามปกติ เเละเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิดที่อยากเป็นผู้ว่าฯ กทม. เพื่อเปลี่ยนเมือง เนื่องจากได้มาเจอเพื่อนและใช้พื้นที่สาธารณะพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น โดยมองว่าเป็นสิ่งที่มีค่าและเป็นเรื่องพื้นฐาน จึงอยากทำกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้นได้
นายชัชชาติ กล่าวพร้อมเสียงหัวเราะ ว่า ภายในกลุ่มเพื่อนมีการบนว่า หากชนะจะให้ตนวิ่ง 8 รอบตามเลขผู้สมัคร โดยยืนยันว่าลงสมัครเพียงคนเดียว แต่มีกลุ่มเพื่อนช่วยสนับสนุนกับการลงสมัครอิสระ นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากชมรมนักวิ่งตามส่วนต่างๆ ในกรุงเทพฯ เช่น สวนจตุจักร สวนแต้จิ๋ว สวนรถไฟ มองว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่มีพลัง
ทำให้คิดว่าไม่ได้อยู่คนเดียว มีหลายคนที่คิดว่าไม่อยากยุ่งกับการเมืองใหญ่ แต่อยากทำเมืองให้ดีขึ้น
เมื่อถามถึงความพร้อมในการทำงานผู้ว่าฯ กทม. นายชัชชาติ ตอบว่า เตรียมชุดไปทำงานได้ทันที เมื่อประชาชนสั่งไปทำงาน ก็ต้องทำงานที่ดี และคาดว่าวันนี้ (23 พ.ค.) จะเดินทางไปลงพื้นที่ว่าจุดไหนมีปัญหาอะไร ซึ่งทีมงานของตนเป็นคนรุ่นใหมและมีพลัง
ส่วนปัญหาน้ำท่วมจะเป็นปัญหาแรกที่ลงไปจัดการหรือไม่ นายชัชชาติ ตอบว่า แม้ปัญหาน้ำท่วมจะเป็นปัญหาใหญ่ที่ชาวกรุงเทพฯ นึกถึง แต่ต้องไม่ลืมปัญหาพื้นฐานอื่นๆ เช่น ทางม้าลาย ความปลอดภัยบนท้องถนน ยังมีอีกหลายเรื่องที่คนกังวล ดังนั้นทุกอย่างต้องเริ่มวางแผน หรือจะเพิ่มอะไรบ้าง นโยบายรายเขตที่เคยนำเสนอ ส่วนจะลงเขตไหนเป็นเขตแรกยังระบุไม่ได้
นายชัชชาติ กล่าวถึง 3 สิ่งแรกที่จะทำทันที คือ การหารือกับข้าราชการ กทม. เพื่อรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายของตน จัดลำดับความสำคัญของปัญหาที่ต้องแก้ไข และปัญหาปากท้องประชาชน
คะแนนเสียงกว่า 1.3 ล้านคะแนน ขอขอบคุณทุกคะแนน เป็นกำลังใจให้ก้าวเดินต่อไป และสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด เพื่อดูแลคนกรุงเทพฯ 6 ล้านคนอย่างเท่าเทียมกัน
ผู้สื่อข่าวถามถึงการเลือกตั้ง กทม. จะส่งสัญญาณไปถึงการเมืองใหญ่หรือไม่ นายชัชชาติ ตอบว่า ขณะนี้ไม่อยากให้มองไปไกลถึงขั้นนั้น ไม่อยากให้แบ่งขั้วการเมือง ตอนนี้ตนเองมาเป็นผู้ว่าฯ ของทุกคน ไม่อยากผูกมัดกับการเมืองใหญ่ ใครจะเป็นรัฐบาลก็ต้องทำงานร่วมกันให้ได้ ส่วนจะเป็นการสร้างแรงกดดันไปถึงรัฐบาลหรือไม่ ก็แล้วแต่คนตีความ อย่างไรก็ตามรัฐบาลต้องดูบทเรียนจากการเลือกตั้ง กทม. เพื่อปรับกลยุทธ์เช่นกัน
ส่วนกรณีที่มีคนเก็บป้ายหาเสียงไปนั้น ได้มอบหมายให้ทีมงานติดตามเรื่องนี้ และส่วนตัวพยายามเก็บให้ได้มากที่สุด ไม่กังวลว่าจะถูกร้องเรียน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ชัชชาติ" พร้อมรับใช้คนกรุงเทพฯ เท่ากัน ก้าวข้ามความขัดแย้ง
"ชัชชาติ" เป็นใคร? ก่อนจะเป็นว่าที่ ผู้ว่าฯ กทม.
"ป้ายชัชชาติ" หายเกลี้ยงแห่เก็บทำกระเป๋า