"รฎาวัญ" ห่วงกัญชาทำลายสมองเด็ก-เยาวชน

วันนี้ (14 มิ.ย.2565) นางรฎาวัญ วงศ์ศรีวงศ์ หัวหน้าพรรคเสมอภาค ในฐานะประธานองค์กรภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า เป็นห่วงการใช้กัญชาไม่ถูกต้องในเด็กและเยาวชน ซึ่งจะส่งผลกระทบสมองและระบบประสาท หลังมีการปลดล็อกกัญชา-กัญชง แต่ยังไม่มีกฎหมายรองรับว่าจะปลูก ผลิต ใช้ ขาย นำเข้าและส่งออกอย่างไร

นางรฎาวัญ กล่าวอีกว่า การเกิดช่องว่างเช่นนี้ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) น่าจะรู้ล่วงหน้าแล้วว่าร่าง พ.ร.บ.กัญช่า กัญชง พ.ศ.... จะเข้าสภาฯ ล่าช้ากว่าการประกาศปลดล็อก จึงควรแถลงชี้แจงข้อมูลว่าสิ่งใดทำได้ ทำไม่ได้ ข้อควรระวัง รวมถึงบุคลากรที่ผ่านการฝึกอบรมความรู้เรื่องกัญชาทั้งแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบัน ที่พร้อมทำหน้าที่ดูแล แนะนำและให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึง

นอกจากนี้ ประชาชนที่ต้องการปลูกไว้ทำอาหารในครัวเรือนจะปลูกได้เลยหรือไม่ ต้องขออนุญาตจากหน่วยงานใด ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายละ 50,000 บาทหรือไม่ และควรชี้แจงให้ชัดเจนว่า ประชาชนรายย่อยจะได้รับสิทธิประโยชน์จากการปลูกกัญชาอย่างเสมอภาค เท่าเทียม ทั่วถึงและยุติธรรมกับกลุ่มทุนรายใหญ่หรือไม่

ห่วง "เยาวชน" ใช้กัญชาส่งผลระบบประสาท

ด้าน พท.ภ.บัญชา สุวรรณธาดา รองประธานองค์กรภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กล่าวว่า การเปิดเสรีกัญชาครั้งนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งข้อดีคือประชาชนได้เข้าถึงพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพในเชิงป้องกันและรักษาโรค และในเชิงเศรษฐกิจ เช่น ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ถือว่าเป็นประโยชน์และเป็นโอกาสของไทย 

ส่วนที่เป็นห่วงคือ รัฐบาลยังไม่ได้ให้ข้อมูลที่ชัดเจนกับประชาชน เกี่ยวกับโอกาสที่จะเกิดปัญหากับเยาวชน หรือประชาชนที่ยังไม่มีและยังไม่ทราบข้อมูลเป็นจำนวนมากนั้นถือว่ายังมีข้อสุ่มเสี่ยง ภาครัฐควรรีบกระตุ้นกระจายข้อมูลองค์ความรู้ที่ถูกต้อง โดยผ่านแพทย์แผนไทยกว่า 30,000 คนทั่วประเทศ

ที่สำคัญคือ เยาวชน ซึ่งตามภูมิปัญญาดั้งเดิมในปฐมวัยหรือในกลุ่มอายุไม่เกิน 25 ปี ไม่ควรใช้กัญชาในเชิงของการสูบโดยเด็ดขาด ซึ่งจะมีผลต่อระบบประสาทและสมอง จึงอยากฝากให้รัฐบาลกำกับดูแล ขณะที่แพทย์ควรชี้แจงการใช้งานที่ถูกต้องเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดตามมา

แนะกิน "รางจืด" ขับพิษเสพกัญชาเกินขนาด

สำหรับข้อปฏิบัติในการรักษาอาการต่างๆ จากการใช้กัญชามากเกินขนาดนั้น มีคำแนะนำจากประธานคณะแพทย์แผนไทยช่วยชาติ ที่ระบุว่า คนที่เสพต่อเนื่องนานๆ ให้กิน "รางจืด" แบบต้มหรือเม็ด เดือนละ 2-3 วัน หากเคยเสพวันละ 2-3 ครั้งก็ให้ลดลงเหลือวันละ 1-2 ครั้ง จากนั้นเหลือวันละครั้ง และ 2 วันครั้งค่อยๆ ลดการเสพลง

ส่วนการใช้กัญชาเพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค ให้ดื่มชาตรีผลาและใบหรือรากกัญชา ทั้งนี้ประชาชนที่มีข้อกังวลสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มไลน์ "แพทย์แผนไทยช่วยชาติ"

อ่านข่าวอื่นๆ

เช็กปลดล็อก "กัญชา" อะไรทำได้ไม่ได้

เช็กเงื่อนไขคุม "ใบกัญชา" ปรุงอาหาร?

10 ข้อควรระวังใช้ผลิตภัณฑ์ "กัญชา"