ป.ป.ช. วันนี้ ( 22 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง 19 คน โดย 1 ในนั้นคือ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กรณีทุก 3 ปี ตลอดเวลาที่ยังดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เมื่อวันที่ 6 เม.ย.2565 พล.ท.สรรเสริญ พร้อมด้วยนางณิชุบล แก้วกำเนิด คู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 133,760,211 ล้านบาท
แบ่งเป็นทรัพย์สินของ พล.ท.สรรเสริญ จำนวน 29,250,877 บาท ส่วนใหญ่เป็นเงินลงทุน 12 รายการ มูลค่ารวม 10,965,628 บาท ที่ดิน 5,000,000 บาท
ยานพาหนะ 2 รายการมูลค่า 5,110,000 บาท โดยเป็นรถยนต์ Honda Accord Hybrid ได้มาเมื่อปี 2563 และรถยนต์ Mercedes Benz ป้ายแดง ได้มาเมื่อวันที่ 18 มี.ค.2565
โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 4,000,000 บาท และทรัพย์สินอื่น 3,310,000 บาท ที่น่าสนใจคือนาฬิกาข้อมือ 4 รายการ มูลค่า 2,460,000 บาท
ส่วนทรัพย์สินของคู่สมรส 104,509,334 บาท ส่วนใหญ่เป็น ทรัพย์สินอื่น(เครื่องประดับ) มูลค่ากว่า 63,915,000 บาท ประกอบด้วย แหวนเพชร 16 รายการ มูลค่า 13,915,000 บาท ต่างหู 31 รายการ มูลค่า 30,900,000 บาท นาฬิกา/สร้อยข้อมือเพชร/สร้อยคอเพชร 24 รายการ มูลค่า 19,100,000 บาท
นอกจากนั้นเงินลงทุน 50 รายการ มูลค่ารวม 26,489,953 บาท ที่ดิน 6,000,000 บาทเป็นต้น
ส่วนหนี้สินรวมทั้งสิ้น 12,396,804 บาท แบ่งเป็นหนี้จากเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น ของ พล.ท.สรรเสริญ 6,198,402 บาท หนี้จากเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น ของคู่สมรส 6,198,402 บาท
นอกจากนั้น พล.ท.สรรเสริญ ยังแจ้งว่ามีรายได้ต่อปี 5,003,249 บาท มาจากเงินเดือน 1,743,249 บาท รายได้จากการขายรถยนต์ 3,260,000 บาท มีรายจ่ายต่อปี 1,478,478 บาท ส่วนคู่สมรส แจ้งว่ามีรายได้ต่อปี 4,286,938 บาท มาจากค่าจ้าง รับงาน Part time 110,000 บาท รายได้จากการขายเครื่องประดับ 3,400,000 บาท เงินปันผลจากการถือหุ้น 104,760 บาท เงินปันผลจากหุ้นสามัญ 242,107 บาท ดอกเบี้ยจากหุ้นกู้ 430,071 บาท มีรายจ่ายต่อปี 660,868 บาท
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.กรณีเข้ารับตำแหน่ง อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 6 เม.ย.2562 ที่ พล.ท.สรรเสริญ และคู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 141,928,848 บาท หนี้สินรวม 14,750,797 บาท เท่ากับว่า พล.ท.สรรเสริญ และคู่สมรส มีทรัพย์สินลดลง 8,168,637 บาท หนี้สินลดลง 2,353,993 บาท