วันนี้ (30 ส.ค.65) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ยืนยันการบริหารราชการแผ่นดินในขณะนี้ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีภาวะสุญญากาศ และได้ชี้แจงต่อ ครม.แล้ว ซึ่ง ครม.ยังคงมีอำนาจเต็มไม่ใช่ ครม.รักษาการ
คนที่รักษาการเพียงคนเดียวคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รักษาการนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 41 ของ พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดินที่กำหนดไว้ว่าหากนายกฯไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ก็ให้รองนายกฯคนหนึ่งเป็นผู้รักษาการแทน ตามมติ ครม.
หากมีรองหลายคน ให้ ครม.จัดลำดับ ซึ่งมีการออกคำสั่งไว้ตั้งแต่ปี 2563 ในการจัดลำดับและผู้ที่รักษาราชการแทนสามารถสั่งอะไรได้หมดทุกอย่างยกเว้นที่เกี่ยวกับการแต่งตั้งหรือการบริหารงานบุคคลและในเรื่องงบประมาณจะต้องปรึกษากับนายกฯก่อน
ในวันนี้มีการเสนอสำนักปลัดสำนักนายกฯให้ปรับปรุงคำสั่งดังกล่าวเนื่องจากเห็นว่าเป็นไปไม่ได้เมื่อ พล.อ.ประวิตร ทำหน้าที่รักษาการนายกฯ รวมถึงเมื่อมีเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย หรือ เรื่องที่เกี่ยวกับงบประมาณจะต้องไปปรึกษา พล.อ.ประยุทธ์ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ระหว่างหยุดปฏิบัติงาน จึงต้องแก้คำสั่งเพื่อให้มีอำนาจเต็ม ซึ่งระเบียบดังกล่าวมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 24 ส.ค.2565 แต่ไม่เกี่ยวกับอำนาจยุบสภาฯ เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างและไม่มีคำว่าสุญญากาศ
นายวิษณุ ระบุว่า ไม่สามารถกำหนดกรอบเวลาในการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญได้และได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ทีมกฎหมายอยู่ระหว่างทำคำแก้ไขข้อกล่าวหาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ คาดว่า อีก 2 วันจะสามารถส่งให้ศาลได้
ทั้งนี้ ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เป็นเรื่องของทีมกฎหมายของนายกฯ ที่กรอบเวลาในการวินิจฉัยคดีดังกล่าวตนเองไม่สามารถประเมินได้แต่ก็มีกรอบเวลา 15 วัน ที่จะให้นายกฯ และผู้ยื่นคำร้องส่งเอกสารชี้แจง
ขณะเดียวกันทราบมาว่า ศาลรัฐธรรมนูญแจ้งให้ผู้อื่นเข้าชี้แจงด้วยเช่นกัน คาดว่า จะใช้เวลาไม่นานเนื่องจากไม่มีการสืบพยานในเรื่องนี้
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงบรรยากาศประชุม ครม.ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้พูดอะไรและไม่ได้กำชับอะไรด้วย ไอก็ไม่ได้ไอกระแอมก็ไม่ได้กระแอม
และเมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ ห่วงอะไรหรือไม่นายวิษณุ กล่าวว่า เมื่อท่านไม่ได้พูด จึงไม่ทราบว่าท่านเป็นอย่างไร
ส่วนตัวก็ไม่ทราบเหตุผลที่ พล.อ.ประยุทธ์ เลือกที่จะใช้การวิดีโอ conference มาร่วมประชุม ครม.แต่ก็มีรัฐมนตรีบางคนที่เลือกประชุม conference เหมือนกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ