ขีปนาวุธรัสเซียถล่มกลางกรุงเคียฟ
วันที่ 10 ต.ค.2565 ตามเวลาท้องถิ่นประเทศยูเครน ภาพกลุ่มควันจากการระเบิด ลอยขึ้นใกล้กับสวนสาธารณะแห่งหนึ่งที่เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวชื่อดังของกรุงเคียฟ ทำให้ผู้คนต้องรีบวิ่งหลบออกมาเพื่อความปลอดภัยโดยแรงระเบิดทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่
ขณะที่อีกจุดหนึ่งภาพตึกที่ถูกทำลายหลังจากกลุ่มควันไฟพวยพุ่งออกมาจากยอดตึกสูงในกรุงเคียฟของยูเครน หลังจากถูกขีปนาวุธของรัสเซียโจมตี นอกจากนี้ สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเคียฟต่างโดนโจมตีจนทำให้ได้รับความเสียหายจำนวนมากเช่นเดียวกัน รวมไปถึงเมืองอื่นๆ ทั่วยูเครนจนทำให้เกิดไฟฟ้าดับด้วย
โฆษกกองทัพอากาศยูเครน ระบุว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธ 83 ลูก ถล่มเมืองหลวงและอีกหลายเมืองทั่วประเทศ ซึ่งระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนสกัดเอาไว้ได้ 43 ลูก
ด้านเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินของยูเครน ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คนและบาดเจ็บ 64 คน ทั่วประเทศจากการโจมตีที่เกิดขึ้น โดยขีปนาวุธบางส่วนมุ่งเป้าโจมตีแหล่งผลิตพลังงานและบางส่วนก็มุ่งเป้าโจมตีพื้นที่ของพลเรือน
นอกจากนี้ การโจมตีที่พุ่งเป้าไปยังคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ ยังทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องกลับไปหลบภัยอยู่ภายในสถานีรถไฟใต้ดินอีกครั้ง และยังทำให้ระบบจ่ายไฟฟ้าและน้ำประปาได้รับความเสียหายจนใช้การไม่ได้หลังจากถูกขีปนาวุธโจมตี
ปูตินสั่งตอบโต้-สะพานเคิร์ชถูกโจมตี
ฝากฝั่งกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เปิดเผยว่า กองกำลังติดอาวุธของรัสเซียได้โจมตีพื้นที่ ที่เป็นเป้าหมายทั้งหมดในยูเครนแล้ว ทั้งพื้นที่ทางการทหาร การสื่อสาร และแหล่งผลิตพลังงาน
การโจมตีครั้งนี้ถือเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดนับจากช่วงแรกๆ ที่สงครามเปิดฉากขึ้น
การโจมตีทั้งหมดเกิดขึ้นหลังจากที่วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ออกมาระบุว่า จะตอบโต้ต่อการโจมตีสะพานเคิร์ชที่เชื่อมระหว่างไครเมียกับรัสเซีย ซึ่งส่งผลให้ถังน้ำมัน 7 ถังบนรถไฟที่กำลังมุ่งหน้าสู่ไครเมียเกิดไฟลุกไหม้ ในขณะที่สะพานบางส่วนพังถล่มลงมา
การโจมตีจุดยุทธศาสตร์สำคัญอย่างอุกอาจ ทำให้ผู้นำรัสเซียลงนามคำสั่งยกระดับการรักษาความปลอดภัยสะพานแห่งนี้ นอกจากนี้ ยังสั่งคุ้มกันระบบสาธารณูปโภคอย่างเข้มงวดและส่งนักประดาน้ำเร่งตรวจสอบความเสียหายบริเวณจุดเกิดเหตุ
สะพานนี้ถือมีความสำคัญอย่างมาก เพราะถือเป็นสัญลักษณ์ของการผนวกดินแดน เนื่องจากสร้างขึ้นตามคำสั่งของผู้นำรัสเซียหลังจากรัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ เมื่อปี 2014 การโจมตีสะพานเคิร์ชสร้างความอับอายให้รัสเซียอย่างมาก
โดยทางการรัสเซียยังคงปักใจเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ติดตั้งไว้ในรถบรรทุก
ทั่วโลกประณาม-จีนวอนลดความตึงเครียด
ด้านโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ระบุว่า การโจมตีเพื่อตอบโต้ต่อเหตุดังกล่าว ทั้งในใจกลางกรุงเคียฟและเมืองอื่นๆ ของยูเครน แสดงให้เห็นว่ารัสเซียกำลังพยายามกวาดล้างยูเครนออกจากโลก เนื่องจากการโจมตีล้วนแต่ตั้งใจที่จะสังหารผู้คน
ขณะที่ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป ออกมาประณามต่อการโจมตียูเครน โดยระบุว่า รู้สึกตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งแสดงให้เห็นว่ารัสเซียมีจุดยืนอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวและโหดร้ายอย่างมาก
ความรุนแรงระลอกล่าสุดนี้ ทำให้แม้แต่กระทรวงการต่างประเทศจีน ยังออกแถลงการณ์ระบุว่า หวังว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะคลี่คลายลงในไม่ช้า และวอนขอให้ทุกฝ่ายลดทอนความตึงเครียดของสถานการณ์ลง
ส่วนชาวยูเครนหลายสิบคนในกรุงบูคาเรสต์ของโรมาเนีย ออกมารวมตัวประท้วงต่อต้านการกระทำของรัสเซียที่โจมตีในหลายเมืองของยูเครน
เช่นเดียวกับผู้คนอีกหลายร้อยคนในกรุงปรากของสาธารณรัฐเช็ก ที่ออกมาแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยต่อการโจมตีของรัสเซียด้วยเช่นเดียวกัน