วันที่ 11 ต.ค.2565 พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์รัสเซียกับยูเครนที่กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง ในรายการ Newsroom Daily รายการออนไลน์ของไทยพีบีเอส โดยระบุว่า หากย้อนกลับไปดู 30 วันที่ผ่านมาจะเห็นภาพชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น ยูเครนใช้หน่วยทหารขนาดเล็กชิงคืนพื้นที่ในบางจุดบางเมือง และเป็นฝ่ายรุกกลับจนทำให้รัสเซียถอนกำลังออกจากพื้นที่ พร้อมเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ปูติน มีความอ่อนแอและมีความล้มเหลวในภาวะผู้นำหรือไม่
สิ่งที่ทำให้รัสเซียหงุดหงิดและระคายเคืองคือ การระเบิดท่อน้ำมันในทะเล รัสเซียชี้ว่าเป็นฝีมือของหน่วยงานชาติหนึ่ง หลังเหตุการณ์นี้ รัสเซียได้ประกาศควบรวม 4 แคว้นของยูเครน การประกาศดังกล่าวเป็นการเฉลยว่า สงคราม 7 เดือนที่ผ่านมา รัสเซียต้องการชิงดินแดน 4 แคว้นไปเชื่อมกับไครเมียที่ได้มาตั้งแต่ปี 2014
นี่คือบทสรุปบทหนึ่ง ที่ชี้ให้เห็นว่าสงครามนี้ต้องการอะไรเป็นรางวัล เพราะจ่ายไปเยอะมาก
การระเบิดท่อน้ำมันในทะเล เป็นจุดที่ทำให้สงครามปะทุขึ้นมาอีกครั้ง วันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา เกิดไฟโหมลุกไหม้บนสะพานเคิร์ชในไครเมียอย่างหนัก เป็นสะพานที่รัสเซียสร้างขึ้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เพื่อเชื่อมต่อไครเมียกับแผ่นดินรัสเซีย เหตุการณ์นี้รัสเซียยืนยันว่ายูเครนเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง โดยระบุในแถลงการณ์ว่า การระเบิดสะพานเคิร์ชเป็นการกระทำของผู้ก่อการร้าย ที่เราจะไม่ปล่อยให้การกระทำเช่นนี้ เกิดขึ้นต่อไปได้อีก ทั้งนี้ ถ้อยคำในแถลงยังมีคำว่า revenge คือการแก้แค้น การเอาคืน ระบุไว้ด้วย พร้อมกำชับเตือนชาติตะวันตกที่พยายามจะเข้ามาช่วยยูเครนในตอนนี้ ว่าท่านจะต้องคิดถึงผลที่จะตามมา
พล.อ.นิพัทธ์ กล่าวว่า หลังจากแถลงการณ์ของปูตินออกมา เช้าวันที่ 10 ต.ค.ตามเวลาท้องถิ่น ยูเครนถูกถล่มด้วยจรวดใน 12 แคว้น มองว่าการกระทำนี้ เป็นการยกระดับสงครามขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ให้เห็นเขี้ยวเล็บของรัสเซียที่ได้ปล่อยออกมาว่ายังมีอีกเยอะในแสนยานุภาพของกองทัพรัสเซีย
เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ในการเจรจายุติสงคราม พล.อ.นิพัทธ์ มองว่าขณะนี้เลยจุดการเจรจาไปแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดของปูตินในตอนนี้คือเรื่องของศักดิ์ศรี ซึ่งจะไม่มีวันถอย และพื้นที่ 4 แคว้นที่ได้มาก็จะไม่คืนให้ยูเครน
ถ้าถอยจะเป็นการเสียเกียรติภูมิอย่างร้ายแรง
พล.อ.นิพัทธ์ วิเคราะห์ฝั่งยูเครนว่า การจัดระเบียบ และปรับยุทธวิธีใหม่ของยูเครน รวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ที่พันธมิตรส่งมาให้ทำงานได้ผลดี ทำให้ยูเครนสามารถยึดเมืองกลับมาได้เรื่อย ๆ และมีขวัญกำลังใจที่ดีขึ้น หลังจากนี้เห็นว่าสงครามระหว่าง 2 ประเทศ จะยังคงเกิดขึ้นอีกนาน