แม้จะมีการเตรียมพร้อมจากบรรดาพรรคการเมืองทั้งหลาย สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้า แต่ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าจะมีผลไม่น้อย คือกติกาการเลือกตั้งที่จะกำหนดไว้ในกฎหมายลูก 2 ฉบับ คือ ร่างแก้ไข พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส. และร่างแก้ไข พ.ร.บ.พรรคการเมือง ซึ่งขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ระบุว่า ต้องดูความชัดเจนจากกฎหมายลูก หลังจากนพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ยื่นกลับไปยังศาลรัฐธรรมนูญ หากวิธีคิดหา ส.ส.บัญชีรายชื่อเป็นแบบ 2 ใบ หาร 100 สมการการแข่งขัน จะยังเป็นพรรคเพื่อไทยที่เสนอให้หาร 100 จะเป็นพรรคหลักของขั้วฝ่ายค้านปัจจุบัน
แข่งกับพรรคภูมิใจไทย ที่ขณะนี้ ชูนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี แต่การเปลี่ยนกลับไปเป็นบัตรเลือกตั้งใบเดียว หรือหาร 500 จะส่งผลให้เสียงสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพรรคพลังประชารัฐ กลับมาคึกคักและได้เปรียบในการเลือกตั้งอีกครั้ง
“ต้องยอมรับว่า ขณะนี้ กระแสรัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ ตกลงมามาก อยู่ในสภาพขาลอย เพราะหลงผิดคิดว่าแก้รัฐธรรมนูญเปลี่ยนกติกาการเลือกตั้งแล้วจะได้เปรียบ แต่ความจริงไม่ใช่ เป็นเหตุให้มีหลายคนมีข่าวเตรียมจะย้ายออกจากพรรคพลังประชารัฐ” นพ.วรงค์กล่าว
นพ.วรงค์กล่าวต่อว่า เป็นผลที่นำไปสู่สมการทางการเมืองที่เปลี่ยนจากศูนย์กลางที่เคยอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไปเป็นนายอนุทินแทน อันเป็นผลจากคะแนนนิยมของพรรคภูมิใจไทยขยับสูงขึ้น เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย
นพ.วรงค์ยังเห็นว่า โอกาสจะแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะบริบทและปัจจัยทางการเมืองไทยเปลี่ยนแปลงไปจาก 2 พรรคใหญ่ สู้กันในการเลือกตั้งปี 2548 คือพรรคไทยรักไทย สู้กับพรรคประชาธิปัตย์
แต่เลือกตั้งครั้งหน้า มีพรรคการเมืองใหญ่และพรรคขนาดกลางจะแย่งชิง ส.ส.มากขึ้น นอกจาก 3 พรรคใหญ่ เพื่อไทย พลังประชารัฐและภูมิใจไทยแล้ว ยังจะมีพรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ พรรคสร้างอนาคตไทย พรรคไทยสร้างไทย และพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่พร้อมจะแย่งชิง ส.ส. แตกต่างจากครั้งก่อนๆ
“มีความเป็นไปได้ที่พรรคเพื่อไทยอาจเป็นพรรคใหญ่อันดับ 1 แต่จะหวังปรากฎการณ์แลนด์สไลด์ค่อนข้างยาก” แหล่งข่าวในพื้นที่กล่าวยืนยัน พร้อมระบุว่า โอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะชิงจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งครั้งหน้าก็มีความเป็นไปได้
นอกจากนี้ ยังรวมถึงการจับมือกับพรรคพลังประชารัฐร่วมตั้งรัฐบาล เพื่อหวังอานิสงส์จากกลุ่ม ส.ว.ในสาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ช่วยโหวตสนับสนุน โดยไม่ต้องไปวิ่งเต้นหา ส.ส.ด้วยเอง
วิเคราะห์ โดย ประจักษ์ มะวงศ์สา
