วันนี้ (16 พ.ย.2565) ตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจาก 11 บริษัทหลักทรัพย์ ที่ได้รับผลกระทบจาก กรณีหุ้น MORE เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) เพื่อตรวจสอบเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้น MORE ในลักษณะผิดปกติ หลังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่า พบความผิดปกติในการซื้อขายหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) (MORE) และให้หยุดพักการซื้อขาย (SP) เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา
โดยแจ้งว่าหุ้น MORE มีการซื้อขายผิดปกติในวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ไปจากช่วงก่อนหน้า โดยมีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 7,142 ล้านบาท ในจำนวนนั้นสร้างความเสียหายแก่บริษัทหลักทรัพย์ หลายรายมีมูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท
พล.ต.ต.พุฒิเดช เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าว โดยจะจัดพนักงานสอบสวนแยกสอบปากคำผู้เสียหายแต่ละราย เพื่อรวบรวมข้อมูลพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เข้าร้องเรียนกับ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งชุดพนักงานสอบสวนขึ้นมาดำเนินการสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ทันที
จากกรณีดังกล่าวเกิดความปั่นป่วนกับบรรดาวงการ “โบรกเกอร์” อย่างมาก ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาของ บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น MORE ที่มีการซื้อขายหุ้นผิดปกติ โดยมีนายอภิมุข บำรุงวงศ์ เป็นผู้ซื้อ ซึ่งสงสัยว่าอาจรู้เห็นกับหากผู้ขาย ไม่สามารถชำระราคาค่าหุ้นได้ ภาระจ่ายทั้งหมดจะตกอยู่กับโบรกเกอร์ที่ต้องเป็นผู้จ่ายเงินแทนให้กับผู้ขาย
สำหรับการทำธุรกรรมการซื้อขายหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดราคาดิ่งฟลอร์ โดยราคาหุ้นปิดที่ระดับ 1.95 ลบไป 0.83 บาท หรือ 29.74% มูลค่าการซื้อขาย 7.16 พันล้านบาท หลังจากมีการตั้งคำสั่งซื้อ ATO หุ้น MORE ที่ระดับราคา 2.90 บาทต่อหุ้นจำนวน 1,500 ล้านหุ้น จากนั้นราคาปรับตัวลดลงต่อเนื่องจนราคาต่ำสุดของวัน (Floor)