วันนี้ (25 พ.ย.2565) นายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ขาดร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ว่า ไม่ว่าคำตัดสินของศาลจะออกมาอย่างไร จะเกิดผลทางการเมืองไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทั้งนำบ้านเมืองไปสู่ทางตันและทางโล่ง แต่ทั้งนี้ก็น้อมรับคำตัดสิน
นายสุทิน กล่าวว่า คาดหวังว่า อยากให้ชาติบ้านเมืองเดินหน้าไปได้เพื่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างดีขึ้น โดยเฉพาะการเลือกตั้งที่กำลังรอกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งหากผลคำตัดสินทำให้การเลือกตั้งสะดุดหยุดลง รัฐสภาก็ต้องออกแรงกันมาก ซึ่งได้แต่หวังว่า ผลคำวินิจฉัยจะเป็นไปในทางที่ดี
ประธานวิปฝ่ายค้าน ยังประเมินเรื่องห้วงเวลาหากว่าศาลสั่งให้มีการแก้ไขเนื้อหาในบางมาตราว่า เชื่อว่าระยะเวลาที่เหลืออยู่ของรัฐสภาหวุดหวิดและไม่ง่าย ซึ่งต้องดูประเด็นการชี้ของศาลว่า เป็นปัญหาที่กระดุมเม็ดแรกหรือกระดุมเม็ดที่สอง ซึ่งหมายถึงที่ตัวกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งหรือเป็นปัญหาที่รัฐธรรมนูญ
หากเป็นปัญหาที่กระดุมเม็ดสองก็จะเป็นในส่วนของกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง เชื่อว่าจะสามารถเร่งรัดให้แก้ได้ในห้วงเวลาที่เหลืออยู่ แต่รัฐสภาก็ต้องให้ความร่วมมือกัน หรือหากศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าเป็นปัญหาที่กระดุมเม็ดแรก หรือที่รัฐธรรมนูญเป็นห่วงว่าอาจจะใช้ระยะเวลาในการแก้ไข ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกนั้นไม่สามารถที่จะพิจารณา 3 วาระรวดพร้อมกันได้เนื่องจากมีกรอบขั้นตอนตามกฎหมายอยู่
โดยย้ำว่าห่วงว่าท้ายที่สุดแล้วผลวินิจฉัยชี้ขาด แม้ศาลจะไม่ได้ชี้ว่ามีปัญหาที่กระดุมเม็ดแรกแต่ก็อาจทำให้คนคิดวิเคราะห์ตีความว่ามีปัญหาที่กระดุมเม็ดแรก และจะทำให้การนำไปสู่การแก้กระดุมเม็ดแรกก็จะยุ่งไปกันใหญ่ ขณะเดียวกันหากแก้ที่ตัวกฎหมายลูกก็ยอมรับว่ายุ่งยากเนื่องจากอาจจะมีระยะเวลาไม่เพียงพอ
นายสุทินระบุว่า หากท้ายที่สุดศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญก็ถือว่าเป็นทางที่โล่ง ซึ่งถือว่าสมบูรณ์แล้วที่มีกฎหมายหรือกลไกในการจัดการเลือกตั้ง หากยุบสภาหรือเกิดอะไรขึ้นก็สามารถจัดการเลือกตั้งได้เลย และเชื่อว่าจะเป็นกฎหมายที่ทุกคนให้ความยอมรับ หลังจากเกิดความเห็นต่างในการพิจารณาของรัฐสภา ข้อเห็นต่างก็จะได้ข้อยุติลง