เมื่อวันที่ 29 พ.ย.2565 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เดินทางมาที่ ถ.ข้าวสาร เพื่อมารับประทานอาหาร และฟังเพลงตามร้านสถานบันเทิงจำนวนมาก ประกอบกับเป็นช่วงเทศกาลแข่งขันฟุตบอลโลก จึงทำให้แต่ละร้าน เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์การแพร่เชื้อโควิด-19 จะยังไม่หมดไป
จากการสำรวจผู้คนที่มาท่องเที่ยว ถ.ข้าวสาร พบว่าส่วนใหญ่หรือประมาณร้อยละ 80 ไม่สวมหน้ากากอนามัย และแต่ละร้านค้าก็ไม่ได้วางมาตรการป้องกันที่เข้มงวด
นักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่มหนึ่งให้ข้อมูลว่า ถ.ข้าวสาร ในขณะนี้อาจมีจำนวนนักท่องเที่ยวดูไม่หนาแน่นเหมือนก่อน จึงไม่กังวลมากนักที่โควิด-19 จะกลับมาแพร่เชื้ออีกครั้ง เพราะทุกวันนี้ก็สวมหน้ากากอนามัยอยู่แล้ว
ขณะที่ผู้ค้าอาหารผัดไทริมทางที่ ถ.ข้าวสาร แสดงความกังวลว่าหากเกิดการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 อีกครั้ง ร้านค้าและสถานบันเทิงจะต้องถูกสั่งปิด ทำให้ไม่สามารถขายของได้เพราะลูกค้าส่วนใหญ่คือกลุ่มที่มาท่องเที่ยวในสถานบันเทิง
การระบาดครั้งก่อน ก็เคยทำให้ไม่มีรายได้ และต้องหยุดขายไปหลายวัน
นอกจากนี้ยังมีอีกบางอาชีพที่อาจจะได้รับผลกระทบตามไปด้วยคือ ผู้ให้บริการรถแท็กซี่และรถตุ๊กตุ๊ก บริเวณ ถ.ข้าวสาร ผู้ให้บริการสะท้อนว่า แม้ว่าจะป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อให้บริการ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัย เพราะความเสี่ยงมีหลายปัจจัย
ดังนั้นจึงหวังว่าหน่วยงานที่มีอำนาจสั่งระงับปิดสถานที่หรือเฝ้าระวังโควิด-19 ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ และผลกระทบเรื่องปากท้องคนหาเช้ากินค่ำ และปัญหาทางเศรษฐกิจด้วย