วันที่ 1 ธ.ค.2565 มีรายงานว่า มีจดหมายระเบิดทั้งหมด 6 ฉบับที่ถูกส่งไปยังสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ แต่โชคดีที่เหตุครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เพราะหลังจากเหตุระเบิดครั้งที่ผ่าน ทำให้เจ้าหน้าที่ยกระดับความปลอดภัยและตรวจสอบเข้มงวดมากขึ้น ในขณะที่กระทรวงมหาดไทยสเปน เปิดเผยว่า ระเบิดจดหมายลักษณะนี้พบตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วแล้ว
ตำรวจสเปนระดมกำลังเข้าตรวจสอบโดยรอบบริเวณสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในกรุงมาดริด หลังจากเมื่อเวลา 12.30 น. ของวันที่ 1 ธ.ค.2565 ตามเวลาท้องถิ่นสเปน มีรายงานว่าระเบิดจดหมายถูกส่งมายังสถานที่ดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบและนำไปจุดชนวนเพื่อทำลาย โดยระเบิดจดหมายฉบับนี้ถือเป็นฉบับที่ 6 แล้ว
ด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า ทางสถานเอกอัครราชทูตได้ยกระดับการรักษาความปลอดภัย หลังจากที่ในสเปนเกิดเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งในวันเดียวกันนั้นระเบิดจดหมายอีกชิ้นซึ่งติดตั้งกลไกอะไรบางอย่างอยู่ภายใน ถูกส่งไปยังฐานทัพอากาศใกล้กรุงมาดริด ซึ่งป็นสถานที่เคลื่อนย้ายอาวุธที่สเปนบริจาคไปยังยูเครนด้วย
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (30 พ.ย.2565) สถานเอกอัครราชทูตยูเครนในกรุงมาดริด ได้รับระเบิดจดหมายในลักษณะนี้เช่นกัน และเกิดระเบิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกำลังตรวจสอบ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่ได้รับอันตรายถึงชีวิต
ในวันเดียวกันนั้น สำนักงานใหญ่ของ Instalaza บริษัทผลิตอาวุธซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศและผลิตอาวุธที่สเปนส่งมอบให้ยูเครนได้รับระเบิดจดหมายเช่นกัน
ด้านรัฐมนตรีมหาดไทยของสเปนเปิดเผยว่า ตรวจพบการส่งระเบิดจดหมายครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (24 พ.ย.2565) หลังจากมีจดหมายระเบิด 1 ชิ้น ถูกส่งไปยังทำเนียบนายกฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า พบวัสดุที่ใช้ประกอบเป็นพลุไฟอยู่ในจดหมายฉบับนั้น จึงนำไปปลดชนวนได้อย่างปลอดภัย
ขณะที่ศาลสูงสเปนประกาศขยายขอบเขตการสอบสวนกับทุกๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันแล้ว และคาดว่าส่วนใหญ่ถูกส่งจากภายในสเปนเอง
ขณะที่ Margarita Robles รัฐมนตรีกลาโหมสเปน ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนโอเดสซาของยูเครน ระบุว่า ทางการสเปนอยู่ระหว่างสอบสวนเหตุจดหมายระเบิดที่ส่งไปยังอาคารรัฐบาลและสถานเอกอัครราชทูตต่างๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดเผยว่ามีจดหมายฉบับหนึ่งถูกส่งไปที่กระทรวงกลาโหม และจ่าหน้าถึงตัวเธอเองด้วยและย้ำว่า
เหตุการณ์เหล่านี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงและหยุดสเปน นาโต รวมทั้งชาติยุโรป จากการสนับสนุนยูเครนได้
ขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมยูเครนกล่าวโทษรัสเซียว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ในแถลงการณ์ของสถานทูตรัสเซียในยูเครนกล่าวประณามเหตุการณ์ดังกล่าวเช่นกัน