วันนี้ (6 ธ.ค.2565) นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ระบบประสาทส่วนกลางของร่างกาย ประกอบไปด้วยสมองและไขสันหลังที่มีความสำคัญ แต่ขณะเดียวกันก็สามารถเกิดความผิดปกติได้ โดยเฉพาะเนื้องอกไขสันหลัง คือเนื้องอกที่อยู่ในโพรงกระดูกสันหลัง อยู่ในตำแหน่งตั้งแต่ระดับคอจากรอยต่อก้านสมอง ไปจนถึงระดับเอว หากเกิดการแบ่งตัวผิดปกติของเซลล์ประสาท จะพัฒนากลายเป็นเนื้องอก
เซลล์ของเนื้องอกไขสันหลัง ส่วนใหญ่เป็นเซลล์ของเยื่อหุ้มไขสันหลัง เซลล์เยื่อหุ้มเส้นประสาท และเซลล์ภายในไขสันหลัง อาการของเนื้องอกไขสันหลังในแต่ละตำแหน่งจะมีความแตกต่างกัน เช่น ถ้าเนื้องอกอยู่ในระดับกระดูกสันหลังส่วนคอ จะมีอาการอ่อนแรงกล้ามเนื้อแขน ชาตามมือและแขนเป็นส่วนใหญ่ ส่วนอาการปวดต้นคอจะไม่มาก อาจมีอาการเพียงแค่ปวดตึงคอ ไม่ค่อยมีอาการปวดร้าวลงแขนแบบที่พบในโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน เวลาเดินบางครั้งอาจมีอาการเกร็งที่ขา 2 ข้าง
ส่วนอาการเนื้องอกไขสันหลังในระดับเอว จะมีอาการอ่อนแรงขาข้างใดข้างหนึ่ง เวลาเดินขาอาจจะทรุดลงได้ หากยังไม่รับการรักษา อาการอ่อนแรงจะมากขึ้น หรืออาจทำให้อัมพาตทั้งแขนและขาทั้ง 2 ข้างได้ อาการส่วนใหญ่จะมีอาการอ่อนแรงที่ขาเป็นหลัก ร่วมกับมีอาการชาของลำตัวลงไปจนถึงขาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้างได้
ขณะที่ นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผอ.สถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยบางคนอาจพบอาการปวดบริเวณกลางหลัง ชาหรือปวดร้าวรอบๆ อกได้ เนื้องอกในระดับกระดูกสันหลังส่วนเอวจะมีเส้นประสาทไขสันหลัง และส่วนปลายของไขสันหลัง หากเกิดเนื้องอกบริเวณนี้ อาการอ่อนแรงจะไม่อ่อนแรงขาทั้งข้าง ซึ่งต่างจากเนื้องอกในตำแหน่งระดับคอหรืออก แต่ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหลัง ปวดเอว ร่วมกับอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ
อาการปวดหลัง มีตั้งแต่ปวดตึงไปจนถึงปวดมาก นอนพักก็ไม่หาย ปวดแบบโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน ผู้ป่วยบางคนปวดมากจนไม่สามารถนอนได้ หากอาการรุนแรงมากขึ้นจะพบปัญหาระบบการขับถ่าย เช่น กลั้นอุจจาระ ปัสสาวะไม่ได้
ปัจจุบันใช้การรักษาโดยการผ่าตัด ซึ่งเป็นวิธีเดียวในการรักษา หากผู้ป่วยมีอาการเข้าได้กับโรคเนื้องอกไขสันหลัง ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้องอย่างรวดเร็ว