ประเทศไทยจะเดินหน้าไปต่อได้ด้วยปัจจัยสำคัญคือการแก้ไข ฟื้นฟูและเยียวยาเศรษฐกิจของประเทศ จึงเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของพรรคการเมืองที่พึงมี สำหรับเป็นเครื่องมือในการหาเสียงเลือกตั้ง
พรรคสร้างอนาคตไทยของ 2 กุมาร นายอุตตม สาวนายน และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ จึงชู ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค เป็นจุดขายหลัก
เช่นเดียวกับพรรคไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หัวหน้าพรรค ที่ชูนายประพันธ์ มงคลสุธี อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมไทย เป็นจุดขาย และพรรคเพื่อไทย ชู นายเศรษฐา ทวีสิน มือบริหารจากบริษัทแสนสิริฯ เป็นจุดขายมือบริหารด้านเศรษฐกิจ
ขณะที่อีกหลายพรรคยังไม่มีตัวบุคคลเป็นจุดขาย ด้านหนึ่งอาจจะหาคนไม่ได้ และอีกด้านหนึ่งอาจเห็นว่า มีเรื่องอื่นสำคัญกว่ามาก
แต่ล่าสุด พรรคพลังประชารัฐ ก็เปิดตัวมือบริหารเศรษฐกิจของพรรคแล้ว โดยเปิดตัวนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรัฐมนตรีพาณิชย์ และอดีต ผอ.อสมท. เป็นมือเศรษฐกิจของพรรค แม้ว่าช่วงหาเสียงเลือกตั้ง
และภายหลังการเลือกตั้ง ส.ส.เดือนมีนาคม 2562 นายมิ่งขวัญ ซึ่งขณะนั้นเป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ จะประกาศเลือกข้างชัดเจนว่า จะไม่เข้าร่วมสังฆกรรมทางการเมืองกับขั้วรัฐบาลขณะนั้น โดยให้เหตุผลว่า อุดมการณ์ทางการเมืองไม่ตรงกัน
แต่ผ่านไป 3 ปีกว่า นายมิ่งขวัญกลับเปิดตัวร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ โดยอ้างบริบททางการเมืองเปลี่ยนแปลงไป และจะไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในพรรคพลังประชารัฐเหมือนก่อน
ย้อนกลับไปในอดีต นายมิ่งขวัญเคยเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พรรคพลังประชาชน หลังจากแสดงฝีมือเข้าตาคนแดนไกล ทั้งในฐานะผู้ช่วยงานด้านเศรษฐกิจนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เมื่อครั้งเป็นรองนายกฯ และเป็น ผอ.อสมท.ที่เลือกอยู่ข้าง นายทักษิณ ชินวัตร กระทั่งถึงวันรัฐประหาร ปี 49 ทีเดียว
นอกจากเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ รั้งตำแหน่งรองนายกฯ นายมิ่งขวัญยังได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หลังพรรคพลังประชาชน ถูกยุบพรรค และพรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การย้ายขั้วไปสนับสนุนให้ตั้งรัฐบาลโดยพรรคภูมิใจไทย
การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนั้น นายมิ่งขวัญได้เสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ปี 50 ด้วย
แต่หลังการยุบสภาของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ คนแดนไกลกลับเลือก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ในนามพรรคเพื่อไทย และนายมิ่งขวัญเริ่มถูกลดบทบาทลง กระทั่งประกาศลาออกจากพรรค เว้นวรรคทางการเมืองไปพักใหญ่ ก่อนจะมีชื่อเป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ในการสู้ศึกเลือกตั้ง ปี 62
แต่มรสุมการเมืองยังไม่สิ้นสุด นายมิ่งขวัญถูกกดดันจนต้องออกจากหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ก่อนที่พรรคจะเข้าร่วมรัฐบาลหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี จากนั้นมีข่าวจะย้ายไปร่วมงานกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่พรรคเศรษฐกิจไทย
ก่อนจะมีชื่อเป็นหัวหน้าพรรคโอกาสไทยที่เปลี่ยนชื่อใหม่จากชื่อเดิมพรรครักษ์ผืนป่าฯ ก่อนจะมาจบสุดท้ายที่พรรคพลังประชารัฐ
ท่ามกลางความเห็นในโลกโซเชียลที่แบ่งเป็น 2 ฝ่าย กลุ่มหนึ่งสนับสนุนชื่นชม และอีกฝ่ายหนึ่งทัวร์ลงเรื่องจุดยืนที่เปลี่ยนไป
วิเคราะห์โดย : ประจักษ์ มะวงศ์สา