วันนี้ (7 ธ.ค.2565) พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. เปิดเผยผลการจับกุมนายอภิชาต ในความผิดฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา และขายเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมตรวจยึดของกลาง 25 รายการ เป็นยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ และอุปกรณ์ในการผ่าตัด
ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่ามีบุคคลเปิดให้บริการผ่าตัดฝังมุกเสริมซิลิโคน และฉีดฟิลเลอร์อวัยวะเพศชายผ่านเฟซบุ๊ก ต่อมาแผลเกิดการอักเสบ ติดเชื้อรุนแรง และมีหนองไหล หลังรับการรักษาอาการอักเสบแล้วยังมีอาการเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ อวัยวะเพศไม่แข็งตัว ทำให้เกิดความเครียด ซึมเศร้า จนคิดฆ่าตัวตาย
ตำรวจจึงสืบสวนจนทราบตัวผู้กระทำผิดแล้วจึงวางแผนเข้าจับกุม ร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยเข้าตรวจค้นห้องพักย่านประเวศ กรุงเทพฯ เมื่อไปถึงก็พบว่าผู้ต้องหากำลังให้บริการลูกค้าที่นัดหมาย
นายอภิชาต ยอมรับว่า ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ และไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม แต่ช่วยแพทย์ทำงานในคลินิก จากนั้นออกมาทำเองได้ 5 ปี โดยเปิดเฟซบุ๊กรับงาน และนัดหมายลูกค้าทำการผ่าตัดฝังมุกฉีดฟิลเลอร์เพิ่มขนาดอวัยวะเพศชายตามโรงแรมม่านรูด หรือห้องพักรายวัน คิดค่าใช้จ่ายครั้งละ 15,000-20,000 บาท
ขณะที่แพทย์เตือนประชาชนที่มีความนิยมในลักษณะนี้ว่า การกระทำดังกล่าวไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพในแง่ทางการแพทย์ โดยการผ่าตัดเพื่อใส่สิ่งแปลกปลอมเข้าไปในอวัยวะเพศอาจทำให้เสี่ยงต่อการอักเสบจนถึงขั้นติดเชื้อถึงขั้นใช้การไม่ได้
เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้รับอนุญาต ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ฐานขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท และขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2551 ฐานขายเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ