รองสารวัตรงานสืบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองอุบลราชธานี ปลอมตัวเป็นพ่อค้าขายล็อตเตอรี่ เพื่อหวังจับกุม น.ส.จิราวรรณ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น
ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ไปดักรอที่ทำงานในตัวเมืองหลายครั้ง แต่ไม่พบ เมื่อสืบทราบว่า ผู้ต้องหาอยู่ซึ่งระหว่างตั้งครรภ์จะเดินทางมาพบหมอโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี จึงปลอมตัวอยู่บริเวณหน้าโรงพยาบาลเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต ก่อนแสดงตัวเข้าจับกุม
การเข้าจับกุมในครั้งนี้ เนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.แสนสุข จ.ชลบุรี ว่าได้สั่งซื้อโทรศัพท์มือถือทางออนไลน์ จำนวน 4,000 บาท โดยโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ในชื่อของผู้ต้องหา แต่ไม่ได้รับสินค้าและติดต่อผู้ขายไม่ได้ จึงมั่นใจว่าถูกหลอกและเข้าแจ้งความ ก่อนที่ศาลจะออกหมายจับ
นอกจากนี้ ยังพบผู้เสียหายอีกหลายจังหวัดถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรอหมายจับของศาล นำมาอายัดตัวผู้ต้องหาในแต่ละกระทง
ด้าน น.ส.จิราวรรณ รับสารภาพว่า ที่ผ่านมาได้รับการติดต่อผ่านทางเฟซบุ๊กให้ไปเปิดบัญชี ได้ค่าตอบแทนเป็นเงิน 300 บาท โดยผู้ว่าจ้างอ้างว่าจะเอาบัญชีไปทำธุรกรรมเว็บไซต์พนันหวยใต้ดิน จึงไปเปิดบัญชีที่ร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน แต่หลังเปิดบัญชีได้ไม่นานก็มีหมายเรียกจากตำรวจจังหวัดกระบี่ จึงติดต่อโอนเงินคืนให้ผู้เสียหาย คิดว่าเรื่องจะจบแล้ว โดยไม่รู้เลยว่ายังมีหมายจับที่ จ.ชลบุรี
น.ส.จิราวรรณ ยอมรับว่า เรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบให้ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบธนาคารได้ เพราะถูกขึ้นแบล็คลิสต์ จึงฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ที่คิดจะขายบัญชีหรือรับเปิดบัญชีม้าว่าอย่าทำ เพราะไม่คุ้มกับค่าจ้างที่ได้รับ
ขณะที่ชุดสืบสวน เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาเป็นหนึ่งในขบวนการหลอกขายสินค้าออนไลน์ แม้ไม่ใช่ตัวการใหญ่ แต่ก็มีส่วนร่วมหรือสนับสนุนในขบวนการ เพราะนอกจากมีหมายจับของศาลจังหวัดชลบุรีแล้ว ยังมีหมายจับศาลจังหวัดกระบี่ ซึ่งได้ประสานเจ้าของพื้นที่ให้มาอายัดตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป