วันนี้ (9 เม.ย.2566) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร นายดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะรณรงค์หาเสียงกรุงเทพมหานคร พร้อมผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่วัดซิกข์ ถ.พาหุรัด วัดฮินดู ถ.เสาชิงช้า เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และหาเสียงให้ผู้สมัครของพรรค
นายสมชาย ให้สัมภาษณ์ ระบุมั่นใจว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ได้ศึกษามาเป็นอย่างดีจะสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ทั้งปากท้องเศรษฐกิจ การยอมรับของต่างชาติและความเจริญของบ้านเมือง ให้เข้าทันกับโลกที่เปลี่ยนไป และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะมีโอกาสได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้เข้ามาทำงาน
ส่วนที่ลงพื้นที่วัดในวันนี้ นายสมชาย กล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่งที่พรรคมีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ที่อยากจะสะท้อนว่า ประชาธิปไตยสามารถใช้ได้กับทุกชุมชนทุกหมู่ทุกเหล่า ไม่ว่าจะศาสนาใด และไม่ว่าจะศาสนาใดชาติใด ก็ช่วยเหลือประชาชน ในยามทุกข์ยาก ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็มีโยบายเหล่านี้พร้อม
ผมไม่ได้รับมอบหมายให้อธิบายเรื่องนโยบายที่ได้มีการเผยแพร่ไปหมดแล้ว ให้ประชาชนเข้าใจจึงอยากได้แรงใจแรงสนับสนุน ขอโอกาสเพื่อไทยมาทำงาน เพื่อพิสูจน์ตัวเอง ถ้าทำไม่ดีพี่น้องสามารถเปลี่ยนใจได้ ถ้าทำดีก็ทำต่อไป
นางพวงเพชรกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีนโยบายให้ผู้สมัครทุกคนเร่งลงพื้นที่หลังได้หมายเลขแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการแบ่งเขตใหม่ เพื่อที่จะบอกเบอร์ของผู้สมัคร รวมถึงเบอร์พรรค ว่าเบอร์อะไร ซึ่งทุกคนต้องทำงานอย่างหนักในเวลาน้อยนิด โดยเฉพาะเรื่องบอกนโยบายให้ประชาชนทราบว่านโยบายด้านเศรษฐกิจที่เด่น ๆ ของพรรคเพื่อไทยคืออะไร เพื่อจะพลิกฟื้นประเทศด้านเศรษฐกิจให้ดีขึ้น โดยเฉพาะนโยบายดิจิทัล วอลเลต 10,000 บาท ที่ต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจด้วย
ด้านนายดนุพร กล่าวว่า ทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย จะดำเนินการจัดทำเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรว่า เงินที่จะนำมาช่วยเหลือประชาชน นำมาจากส่วนไหนบ้าง เพื่อยื่นให้กรรมการการเลือกตั้ง ตามที่กกต. ให้ดำเนินการ ชี้แจงรายละเอียดนโยบายเติมเงินในดิจิทัลวอลเลตให้ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไป ว่าจะนำเงินจากส่วนไหนกว่า 5 แสนล้านบาท มาใช้
ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย ให้ความสำคัญกับเรื่องวินัยการเงินการคลัง โดยคิดมาตั้งแต่แรก แต่เป็นเรื่องใหม่ของประเทศไทย ที่หลายประเทศก็เคยนำมาใช้ พรรคเพื่อไทยจึงคิดไปไกล ก้าวไป 2 ก้าวเกินกว่าคนอื่น ว่าจะเดินหน้านำเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ดีมาใช้ โดยเชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้เร็ว
พร้อมเชื่อว่าหลัง 6 เดือน หากเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล คงไม่ต้องเติมเงินเข้าระบบอีกแล้ว มั่นใจภายในสี่ปีจีดีพีจะโตขึ้นเฉลี่ยถึงร้อยละห้าได้ ขอให้ประชาชนรู้ว่า พรรคได้ดำเนินการทำการบ้านมารอบด้าน
น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ผู้สมัคร ส.ส.เขต1 กทม.พรรคเพื่อไทย มั่นใจในการลงสมัครครั้งนี้เพราะที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่มาโดยตลอด และมีนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ทำได้จริง ขณะที่เสียงตอบรับจากประชาชนในพื้นที่ก็เชื่อมั่น และอยากจะให้โอกาสพรรคเพื่อไทย ไม่ได้กังวลว่า การได้มาเป็น ส.ส.ครั้งที่แล้ว เป็นเพราะพรรคพลังประชารัฐ เพราะได้มีโอกาสทำงานมาแล้ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
“นอท” หาเสียงตลาดเช้า คนทักทาย-ขอถ่ายรูปคึกคัก ระบุถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว