ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

หืดจับ “พิธา” ว่ายฝ่ากระแสคลื่น ลอยคอให้ “ส.ว.” ประคองปีก

การเมือง
11 ก.ค. 66
17:10
726
Logo Thai PBS
หืดจับ “พิธา” ว่ายฝ่ากระแสคลื่น ลอยคอให้ “ส.ว.” ประคองปีก
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

ยังมาแรงไม่มีแผ่ว คงหนีไม่พ้นประเด็นโหวต “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นนายกฯ คนที่ 30 ปมประเด็นที่เป็นเงื่อนตาย ไม่ได้อยู่ที่ว่าจะมี ส.ว. โหวตให้ว่าที่นายกคนใหม่จำนวนเท่าใด แต่ยังต้องรอลุ้นว่า ในวันพรุ่งนี้ (12 ก.ค) กกต. จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เรื่องคุณสมบัติของนายพิธาตามรัฐธรรมนูญ 82 หรือไม่

ขณะที่ฟากฝั่งสมาชิกวุฒิสภาที่พรรคร่วมรัฐบาล ภายใต้การนำของก้าวไกล ก็จำเป็นต้องได้เสียง ส.ว. มาสนับสนุนให้ได้ 70 เสียง จึงจะอยู่ในโซนที่ปลอดภัยสูงสุด แม้ก่อนหน้านี้ ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะบอกว่า มีเสียงส.ว. สนับสนุนเกิน 100 แล้วก็ตาม แต่เอาเข้าจริงจะเป็นไปตามนั้นหรือไม่ ยังไม่มีใครให้คำตอบได้

ก่อนหน้านี้ ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กโดยยกคำกล่าวของ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) ความว่า “จะใช้ท่าทีวางเฉยต่อคน เพื่อรักษาธรรม ไม่เห็นแก่คน-แต่เห็นแก่ธรรม วางตัวเป็นกลางต่อคน”

ล่าสุด ดร.สังศิต ได้โพสต์ตอบข้อสงสัยของเพื่อนฝูงที่เข้ามาถามจุดยืน ในเรื่องดังกล่าวโดยระบุว่า การรักษา “ธรรม” หมายถึงความดี ความถูกต้อง การรักษาธรรม คือการทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญที่สุด ไม่มีสิ่งใดสำคัญยิ่งกว่านี้อีกแล้ว ฉะนั้น การลงคะแนนเสียงของผม จะต้องเป็นไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นที่ตั้งเท่านั้น ไม่มีทางเลือกอื่นอีก”

ดร.สังศิต ยังระบุอีกว่า การตัดสินใจนี้จึงไม่เป็นการส่งเสริมและไม่ไปสนับสนุนให้เกิดการใช้ความรุนแรงในหมู่ของประชาชน จะไม่สนับสนุนให้มีการใช้การข่มขู่คุกคาม และบีบบังคับด้วยกำลัง หรือจิตใจ (moral coercion) ด้วยวาจาและทุกรูปแบบของประชาชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งต่อประชาชนอีกกลุ่มหนึ่ง

เพราะการกระทำดังกล่าวดังที่ปรากฏในประวัติศาสตร์การเมืองทั่วโลกแล้วว่า มันเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างระบบการปกครองที่ใช้อำนาจเผด็จการและใช้ความรุนแรงโดยไม่ยอมรับสิทธิในการอัตวินิจฉัยของตนเอง (self determination) ของปัจเจกบุคคลที่จะสามารถกำหนดเส้นทางเลือกชีวิตและอนาคตของตัวเอง และของสังคมโดยส่วนรวมได้

ดร.สังศิต ระบุอีกว่า เสียงของประชาชนโดยหลักการแล้ว สมควรรับฟังด้วยความตั้งใจ และพิเคราะห์พิจารณาด้วยความเคารพ แต่สิทธิในการวินิจฉัยและตัดสินใจสุดท้ายเป็นของผม ผมจำเป็นต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง 

เป็นการให้ตอบแบบไม่แทงกั๊ก แต่ต้องไปตีความกันเอาเอง

ในขณะที่ท่าทีของ ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุว่า มีกระแสกดดันกลุ่ม ส.ว. มากจึงทำให้ ส.ว. ส่วนใหญ่มีท่าทีไม่แสดงออกชัดเจน แม้ก่อนหน้าจะมีสัญญาณบวกมาบ้าง

เขายอมรับว่าสิ่งที่กังวลมากกว่า คือ การพยายามชูเรื่องจงรักภักดีมาเป็นเกณฑ์ในการให้โหวตหรือไม่โหวต เพราะไม่เหมาะสมและหมิ่นเหม่ที่จะเอาสถาบันมาปะทะกับการเลือกตั้ง ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อสถาบันในระบอบประชาธิปไตย

ด้าน อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หนึ่งในแกนนำพรรคก้าวไกล เป็นอีกคนหนึ่งที่เดินสายช่วยเต็มที่ ก่อนหน้านี้หอบ ส.ส. พรรคก้าวไกล เข้าเยี่ยม “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า “บิ๊กจิ๋ว” อวยพรให้พรรคก้าวไกลในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลประสบความสำเร็จ และขอให้การโหวตเลือกพิธาเป็นนายกฯในวันที่ 13 ก.ค.นี้เป็นไปราบรื่นเรียบร้อย

ต้องจับตาดูว่า ส.ว.สายทหาร ลูกน้องเก่า “บิ๊กจิ๋ว” ที่ยังมีตำแหน่งอยู่จะโหวตช่วยได้กี่เสียง

ด้านนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ หรือ “ครูหยุย” สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ออกมาโพสต์ข้อความโดยระบุว่า ส.ว. ที่จะโหวตให้พิธา มีจำนวน 10 คน ประกอบด้วย นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์, นพ.อำพล จินดาวัฒนะ, นายทรงเดช เสมอคำ, นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม, นายวันชัย สอนศิริ, นายมณเฑียร บุญตัน, นางประภาศรี สุฉันทบุตร, นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์, นายพิศาล มาณวพัฒน์ และ นายพีระศักดิ์ พอจิต

จึงต้องลุ้นว่า ส.ว. 250 คน ที่จะโหวตให้พิธา นอกเหนือจาก 10 คนนี้แล้วยังมีใครอีกบ้าง

ในขณะที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นอกจากจะใช้ลูกอ้อนกับประชาชนเดินสายขอบคุณทั่วสารทิศที่เลือก ส.ส. ก้าวไกลแล้ว ยังใช้ไม้นุ่มกับ ส.ว. ด้วยการอัดคลิปสื่อไปถึง ส.ว. และ ส.ส. ขอคะแนนโหวต โดยระบุตอนหนึ่งว่า ทุกท่านอาจไม่ชอบแนวทางการเมืองของพวกเราในระบบการเมืองปกติ

แต่พวกท่านตรวจสอบผมได้ โจมตีผมได้ โหวตผมออกจากตำแหน่งก็ยังทำได้ แต่การโหวตให้รัฐบาลเสียงข้างมาก คือ การให้โอกาสประเทศไทยเดินหน้าในแบบที่ควรจะเป็น

แต่กว่าจะไปถึงวันโหวต และลีลาที่อ้อนขอเสียงโหวตของพิธาจะเป็นต่อ คงต้องรอดูว่าพรุ่งนี้ กกต. จะชี้ชะตาอย่างไร  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง