ในช่วงเวลา 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา มีข่าวปรากฏผ่านสื่อเกี่ยวกับการลงโทษนักเรียนโดยใช้วิธีการที่ไม่เหมาะสม เช่น การเฆี่ยนตี การให้อมถุงเท้า ให้ถอดกระโปรง และยังมีกรณีความผิดทางเพศ
ผศ.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวขัดต่อจรรยาบรรณของวิชาชีพครู ที่ครูจะต้องไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสังคมของศิษย์
เมื่อเกิดเหตุเกี่ยวกับการกระทำของผู้ประกอบวิชาชีพครู ที่อาจเป็นการประพฤติผิดจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพครู ทั้งกรณีที่มีผู้ร้องเรียนเป็นหนังสือ หรือกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนใด ๆ ก็ตาม คุรุสภาก็จะเร่งดำเนินการพิจารณาโทษทางจรรยาบรรณอย่างเร่งด่วน ตั้งแต่การสอบสวนข้อเท็จจริง
กรณีพบว่าเรื่องร้องเรียนมีมูล คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) จะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ เพื่อดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ และให้โอกาสผู้ประกอบวิชาชีพที่ถูกกล่าวหา-กล่าวโทษ ได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา-กล่าวโทษ และเมื่อคณะอนุกรรมการสอบสวนดำเนินการเสร็จสิ้น จะนำเสนอรายงานการสอบสวนต่อ กมว. เพื่อพิจารณาวินิจฉัยขี้ขาด และกำหนดระดับความผิดทางจรรยาบรรณของวิชาชีพ ซึ่งจะมีโทษตั้งแต่ตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ใบอนุญาต และสูงสุด คือ เพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
สถิติตั้งแต่ปี 2554 ถึงปัจจุบัน กมว.ได้วินิจฉัยกำหนดระดับความผิดทางจรรยาบรรณของวิชาชีพเรียบร้อยแล้ว จำนวน 174 คน ดังนี้ ตักเตือน 23 คน ภาคทัณฑ์ 41 คน พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ 52 คน เพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ 58 คน
ทั้งนี้ กรณีการกระทำผิดเกี่ยวกับล่วงละเมิดทางเพศนักเรียน เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และการลงโทษนักเรียนโดยใช้วิธีการรุนแรงจนทำให้นักเรียนได้รับบาดเจ็บ เป็นกรณีความผิดที่มีระดับโทษสูงสุด คือ เพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ในระหว่างปี 2565 ถึงวันที่ 30 มิ.ย.66 มีเรื่องร้องเรียนกล่าวหา-กล่าวโทษ ในเรื่องเกี่ยวกับล่วงละเมิดทางเพศ รวม 27 เรื่อง ถูกพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ 3 คน ถูกเพิกถอนใบอนุญาต 16 คน และอยู่ระหว่างการพิจารณาทางจรรยาบรรณของวิชาชีพ 8 เรื่อง