วันที่ 5 ส.ค.2566 เพจเฟซบุ๊กมูลนิธิเพื่อนช้าง ได้เผยแพร่ภาพของพังสีเวย อายุ 65 ปีระหว่างรับการรักษาจากสัตวแพทย์โรงพยาบาลช้าง ของมูลนิธิเพื่อนช้าง อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง
โดยพังสีเวย ป่วยหนักด้วยอาการท้องผูก และถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลช้าง ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. สัตวแพทย์ให้ยา วิตามิน ควบคุมการติดเชื้อ พร้อมประคบด้วยสมุนไพร แต่อาการไม่ดีขึ้น
ภาพจาก Friends of the Asian Elephant Foundation
เมื่อตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์ พบว่าลำไส้ใหญ่ มีการฉีกขาดมาช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว หากปล่อยนานกว่านี้ช้างจะทรมาน ลำไส้ที่ขยายใหญ่จะดันไปกดช่องอก ทำให้ช้างหายใจไม่ออกและช็อกจนเสียชีวิตในที่สุด ประกอบกับพังสีเวย มีอายุมาก ทีมสัตวแพทย์ จึงประสานกับเจ้าของช้าง เพื่อขอความยินยอมให้ฉีดยาให้พังสีเวยจากไปอย่างสงบ
ขณะที่ เฟซบุ๊กของ น.ส.โซไรดา ซาลวาลา ประธานมูลนิธิเพื่อนช้าง ได้โพสต์ภาพและข้อความแสดงความเสียใจกับการจากไปของพังสีเวย โดยข้อความบางส่วนระบุว่า พังสีเวยทรมานมาก แสดงอาการปวดท้องอย่างที่สุด ความทรมานนี้ควรยุติโดยเร็ว เพื่อให้พ้นความเจ็บปวด เจ้าของเข้าใจและอนุญาต
โดยเจ้าหน้าที่ได้นิมนต์พระสงฆ์ ไปประกอบพิธีส่งพังสีเวย ก่อนใช้รถแบ็กโฮขุดหลุมและทำการฝังซาก ในพื้นที่ของมูลนิธิเพื่อนช้าง
ภาพจาก Friends of the Asian Elephant Foundation
สัตวแพทย์หญิงเครือทอง ขยัน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลช้างมูลนิธิเพื่อนช้าง ฝากคำแนะนำเจ้าของช้างให้ระมัดระวังการให้อาหาร ไม่ควรให้อาหารที่ย่อยยาก เพราะอาจเกิดอาการท้องผูก ถ่ายไม่ออกและเป็นอันตราย สำหรับพังสีเวย ไม่ใช่ช้างเชือกแรก ที่โรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้างทำการุณยฆาต ที่ผ่านมามีช้างหลายเชือกที่ป่วยหนัก จนสัตวแพทย์ต้องตัดสินใจฉีดยาให้จากไปอย่างสงบ
ทั้งนี้มีประชาชนเข้ามาโพสต์ข้อความแสดงความเสียใจต่อการจากไปของช้างเชือกนี้เป็นจำนวนมาก
อ่านข่าวอื่นๆ :
ลูกช้าง "ตุลา" ไม่ล้มตัวนอน-ขาอักเสบ ผลตรวจเฮอร์ปีส์ไวรัสเป็นลบ