วันนี้ (10 ส.ค.2566) ตัวแทนผู้เสียหาย นำเอกสารหลักฐาน เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรบางกรวย หลังร่วมลงทุนวงแชร์กับเท้าแชร์คนหนึ่ง ที่ผู้เสียหายอ้างว่า รับราชการครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี
นางสาวเอ ผู้เสียหาย สะท้อนกับทีมข่าวว่า รู้จักกับเท้าแชร์คนดังกล่าว เนื่องจากอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน เห็นว่า มักโพสต์ชักชวนให้ร่วมวงแชร์ผ่านทางโซเชียล ให้ผลตอบแทนดี ช่วงแรกลงทุนได้รับผลตอบแทนจริง จึงชวนแม่และแฟนมาร่วมลงทุน เพิ่มอีก 2 วงแต่สุดท้ายไม่ได้รับเงิน มูลค่าความเสียหายกว่า 1.6 แสนบาท
ส่วนนางสาวบี ผู้เสียหายอีกคน เปิดเผยว่า ตนเองเป็นลูกศิษย์ของเท้าแชร์ ส่งเงินร่วมในวงแชร์มาโดยตลอด จนถึงกำหนดที่ต้องได้รับเงิน เท้าแชร์กลับจ่ายเงินล่าช้า และแอบอ้างนำชื่อของตนเองไปใส่ในวงแชร์ต่างๆ การร้องเรียนในครั้งนี้ ต้องการให้เท้าแชร์พูดความจริงว่าเธอไม่มีส่วนในการทำให้แชร์ล้ม
ผู้เสียหายร้อง สถานีตำรวจภูธรบางกรวย
ด้านนายโชติอนันต์ เลิศฤทธิ์ภูวดล กรรมการตรวจสอบและติดตาม สถานีตำรวจภูธรบางกรวย จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า มีผู้เสียหายติดต่อมาเพื่อขอความช่วยเหลือกว่า 20 คน ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนครูในโรงเรียนเดียวกับเท้าแชร์ หลังจากนี้จะขอเป็นตัวแทนผู้เสียหายยื่นเรื่องถึง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี เขต 3 เพื่อสอบสวนจริยธรรมในวิชาชีพครูต่อไป
ส่วนพฤติการณ์ของเท้าแชร์คนดังกล่าว จะเปิดรับผู้ที่สนใจลงทุนผ่าน Facebook วันละ 30 วง เริ่มตั้งแต่หลักหมื่น ถึงหลักแสนบาท โดยตั้งชื่อผ่านอิโมจิ หรือ สัญลักษณ์ในโทรศัพท์มือถือ เช่น วงใจไฟลุก วงน้ำด่าง วงกระบองเพชร และวงตะขอ
แต่สุดท้ายเมื่อช่วงต้นเดือน ก.ค.2566 กลับแจ้งในกลุ่มไลน์ว่า แชร์ล้ม เนื่องจากมีลูกแชร์ส่งเงินไม่ตรงตามกำหนด และแจ้งว่าจะคืนเงินให้กับผู้เสียหาย แต่บ่ายเบี่ยงและทำสัญญาการคืนเงิน ซึ่งมีผู้เสียหายบางส่วนร่วมทำสัญญาดังกล่าว แต่บางส่วนไม่เชื่อใจ จึงเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ในวันนี้
การออกมาร้องเรียนครั้งนี้ เพื่อต้องการดำเนินคดี และให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพฤติกรรมของบุคคลดังกล่าว รวมทั้งเตือนภัยเพื่อไม่ให้ประชาชนหลงเชื่ออีก เบื้องต้นพบผู้เสียหายที่เป็นครูและนักเรียนมากกว่า 40 คนมูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท
อ่านข่าวอื่น ๆ :
ตร.สอบปากคำชายชิงทอง อ้างติดพนันออนไลน์-หมุนเงินไม่ทัน