ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เจาะทำเลทองไทย ต่างชาติรุกทำ “ธุรกิจ-พักอาศัย -ขายแรงงาน”

เศรษฐกิจ
17 ส.ค. 66
12:51
1,227
Logo Thai PBS
เจาะทำเลทองไทย ต่างชาติรุกทำ “ธุรกิจ-พักอาศัย -ขายแรงงาน”
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

หลายสิบปีที่ผ่านมาชาวต่างชาติที่เข้ามาพักอาศัยอย่างถาวรหรือชั่วคราว ในประเทศไทย เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ทั้งผู้ที่เข้ามาถูกอย่างกฎหมายและลักลอบหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย หลายคนอยากทราบว่า คนเหล่านี้พักอาศัย ทำงาน ท่องเที่ยวอยู่ในพื้นที่ไหน และประกอบอาชีพอะไรบ้าง 

สำนักบริหารแรงงานต่างด้าว กรมการจัดหางานรายงานสถานการณ์แรงงานต่างด้าวเฉพาะเดือน ก.ค.2566 ว่า มีชาวต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานได้ ทั่วราชอาณาจักร ทั้งสิ้นจำนวน 2,766,997 คน โดยจำแนกตามลักษณะการเข้าเมือง และไม่รวมชาวต่างชาติ ที่ยังคงตรวจสอบข้อมูลไม่ได้

เจาะ กทม.พื้นที่ใจกลางย่านธุรกิจ

ในพื้นภาคกลางและจังหวัดปริมณฑล มีชาวต่างชาติเข้ามาพำนักในไทยถึง 2,089,089 คน เฉพาะโซนใจกลางเมืองหลวงอย่าง กรุงเทพมหานคร มีชาวต่างชาติถึง 633,467 คน ส่วนใหญ่จะเข้ามาทำธุรกิจร้านอาหาร ร้านขายผ้า ธุรกิจบันเทิง จะอยู่ในยานซอยสุขุมวิท 3-23 (ย่านนานา) ตะวันออกกลาง ส่วนซอยสุขุมวิท 12 หรือที่เรียกว่าโคเรียทาวน์ จะเป็นย่านที่มีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี และมีบริษัทต่างชาติ ประกอบธุรกิจร้านอาหาร เช่นเดียวกับซอย สุขุมวิท 21แยกอโศก-เอกมัย โซนนี้จะมีชาวญี่ปุ่น และเป็นที่ตั้งของบริษัทต่างชาติ ธุรกิจร้านอาหาร

ส่วนย่านเยาวราช และเขตพื้นที่ห้วยขวาง จะมีชาวจีนเข้ามาทำธุรกิจการค้า ธุรกิจร้านอาหาร ร้านขายของชำ ไม่ต่างจากย่านรัชดาภิเษก ที่จะมีนักลงทุนชาวจีนเข้ามาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ขณะที่ในพื้นที่คลองโอ่งอ่างจะมีชาวอินเดีย อาหรับ เปิดร้านขายผ้า และทำธุรกิจร้านอาหาร

ภาคกลางบูมนิคมอุตสาหกรรมฯ จ้างงานต่างด้าว

ข้อมูลจากการสำรวจพบว่า ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นอกจาก จะมีนิคมอุตสาหกรรมจากจีนและญี่ปุ่นตั้งอยู่แล้ว ยังมีนักธุรกิจต่างชาติยังเข้ามาลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์อีกจำนวนมาก 

ขณะเดียวกันในเขต จ.สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และราชบุรี พบว่ามีชาวเมียนมาเข้ามาเป็นแรงงานรับจ้างตามโรงงานต่างๆ ในเขตนิคมอุตสาหกรรม และโรงงานทั่วไป ไม่ต่างจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์

และยังพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาว ชาวอังกฤษ, เยอรมัน, จีน ซึ่งเป็นจำพวกที่เกษียณมาแล้วเข้ามาท่องเที่ยวและมีชาวรัสเซียเข้ามาลงทุนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ อ.หัวหินด้วยเช่นกัน

ภาคตะวันออกคึกคักเปิดรับแหล่งทุนใหม่

การเปิดพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ EEC และการเกิดขึ้นของนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่โซนตะวันออกเขต จ.ชลบุรี โดยเฉพาะที่ อ.ศรีราชา ที่ปัจจุบันกลายเป็นเมืองที่มีการลงทุนทางอสังหาริมทรัพย์สูง

มีนักลงทุนชาวจีนและญี่ปุ่น เข้ามาลงทุนทำธุรกิจที่เรียกว่า Serviced Apartment คอนโดฯ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงเรียนสำหรับเด็กญี่ปุ่น ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับวิถีชีวิตของชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่อาศัยระยะยาว

รวมทั้งในพื้นที่ใกล้เคียงเขต อ.เขาสามมุข-อ่างศิลา ยังพบว่ามีชาวสแกนดิเนเวีย หรือกลุ่มคนที่เกษียณแล้วเข้ามาพักอาศัย เช่นเดียวกับ เขตเมืองพัทยา จะมีชาวจีน สหรัฐฯ รัสเซีย และนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ส่วนเขตเมืองพัทยาใต้ จะเป็นพื้นที่พำนักของชาวเอเชียใต้ เช่น อินเดีย ศรีลังกา ซึ่งคนกลุ่มนี้จะเข้ามาทำกิจการร้านอาหาร ธุรกิจบันเทิง

ขณะที่ด้าน จ.ปราจีนบุรี จะพบชาวเวียดนาม เข้ามาลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว เปิดร้านอาหารและที่ จ.จันทบุรี จะมีชาวอินเดีย, จีน, ปากีสถาน และกัมพูชา เข้ามาทำธุรกิจค้าพลอย

ปริมณฑลแรงงานเมียนมาครองพื้นที่

ข้อมูลสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว ระบุอีกว่า พื้นที่รอบจังหวัดปริมณฑล ประกอบด้วย จ.สมุทรปราการ ,ปทุมธานี, สมุทรสาคร และ นครปฐม พบมีแรงงานต่างด้าวเข้าพักอาศัยมากถึง 797,859 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมา ประกอบอาชีพแรงงานรับจ้างและพนักงานโรงแรม

สัดส่วนน้อยกว่าในพื้นที่ภาคอีสาน พบว่ามีชาวเวียดนาม ลาว เข้ามาเป็นแรงงานและประกอบธุรกิจส่วนตัวเพียง
62,069 คน เช่นที่ จ.หนองคาย , นครพนม, สกลนคร, มุกดาหาร , เวียดนาม , อุบลราชธานี , เลย , ตาก และ อุดรธานี ก็ยังมีชาวสหรัฐอเมริกาเกษียณอายุเข้ามาอยู่จำนวนไม่น้อย

ภาคเหนือถิ่นท่องเที่ยวต่างชาติล้นทะลัก

สำหรับพื้นที่ภาคเหนือหลายจังหวัด สำรวจพบตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ทั้งลาว จีนและญี่ปุ่นเข้ามาท่องเที่ยว ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และพักอาศัยมีจำนวน 273,577 คน โดยเฉพาะที่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย น่านและ ตาก มีการเข้ามาลงทุนทำธุรกิจประเภทต่างๆ เช่น โรงแรม-ที่พัก อาหาร ทัวร์ ขนส่งหรือโลจิสติกส์ และอสังหาริมทรัพย์

นักลงทุนจีนจะเดินทางมาพร้อมกับบริษัทกฎหมาย ที่ส่วนใหญ่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน พูดภาษาไทยได้ พร้อมกับนำสถาบันการเงินจากจีนมาด้วย เพื่อพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ

ภาคใต้คึกท่องเที่ยว- อสังหาฯดูดนักลงทุน

ภาคใต้ ยังเป็นแหล่งดึงดูดสำคัญให้นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจให้เข้ามาจำนวนมาก พบว่าในพื้นที่ จ.ชุมพร ภูเก็ต กระบี่ และ สงขลา มีชาวต่างชาติเข้ามาถึง 342, 262 คน เฉพาะที่ จ.ชุมพร มีกลุ่มสแกนดิเนเวีย ซึ่งเกษียณจากการทำงานแล้วเข้ามาพักอาศัย

และพบชาวรัสเซียเข้ามาพักอาศัยและประกอบธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่ จ.ภูเก็ต จำนวนมาก คาดการณ์ว่าเป็นผลจากปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน จึงส่งผลต่อการตัดสินใจกวาดซื้อโครงการวิลลา เพื่อนำมาปล่อยให้เช่ากันเอง หรืออยู่อาศัยในระยะยาว

นอกจากนี้ในพื้นที่ยังมีแรงงานต่างด้าว ที่ใช้วีซาท่องเที่ยวเข้าประเทศ และส่วนใหญ่เลือกทำงานในสถานบริการและสถานบันเทิง ผับ บาร์ โดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน

สำรวจพบว่า มีอาชีพนักแสดงและให้บริการ เช่น ดีเจ ศิลปิน นักดนตรี พนักงานต้อนรับ ผู้จัดการ แดนเซอร์ และพนักงานทั่วไป

ไม่ต่างจาก เกาะลันตา จ.กระบี่ พบว่ามีชาวจีน มุสลิม และสวีเดน เข้ามาทำธุรกิจและท่องเที่ยว ทำการประมง ค้าขาย

ในเดือน ม.ค. ปี 66 มีรายงานจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ว่า มีนักท่องเที่ยวสวีเดน ใน จ.กระบี่ 8,340 คน จนนำไปสู่การก่อตั้งโรงเรียนนานาชาติของชาวสวีเดน ที่มีนักเรียนต่างชาติประมาณ 200 คน

ขณะที่ จ.สงขลา มีชาวญี่ปุ่น, ฮ่องกง, มาเลเซีย เข้ามาลงทุนนิคมในอุตสาหกรรม และไม่ได้อยู่อาศัยในระยะยาว ทั้งนี้จำนวนชาวต่างชาติที่ได้รับอนุญาตทำงานใหม่ทั่วไทยในเดือน ก.ค. 66 เรียงตามลำดับคือ กัมพูชา 19,427 คน, เมียนมา 18,545 คน, ลาว 16,351 คน, จีน 1,692 คน และญี่ปุ่น 1,372 คน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง