และถูกตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ปมข่มขู่เรียกรับเงินจากเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียน หรือให้ตรวจสอบ ผู้บริหารกรมการข้าว ส่อพิรุธการใช้งบฯ กลายเป็นคลิปเดือดร้อนระอุโลกโซเชียล
และยิ่งเดือดเข้าไปอีก เมื่อภรรยาของอธิบดีกรมการข้าว ท้าชน 4 คน ที่อยู่ในข่าวเปิดข้อมูลออกสื่อทีวีพร้อมกันแบบทุกที่ทุกเวลา
อ่านข่าว : "บิ๊กเต่า" มั่นใจหลักฐานมัดแน่น "ศรีสุวรรณ"
ถือเป็นอีกหนึ่งข่าวใหญ่ต้อนรับปีมะโรง ที่เพิ่งจะมาเยือนไม่ถึงหนึ่งเดือน เพราะเป็นคดีเรียกรับเงินหรือตบทรัพย์ระดับอธิบดี โดยนักร้องเรียนมืออันดับต้น ๆ ของไทย นายศรีสุวรรณ จรรยา แท็คทีมกับฝ่ายการเมือง นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจอก แถมพ่วงอดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ น.ส.พิมพ์ณัฐฐา จิระพุทธิภาคย์ อีกหนึ่งคน
อ่านข่าว : เปิดพฤติการณ์ "ศรีสุวรรณ-พร้อมพวก" เรียกรับเงินบิ๊กกรมข้าว
เป็นเรื่องที่มีให้เห็นไม่บ่อยนัก เพราะบทบาทคนหนึ่ง คือเป็นนักร้องเรียนให้มีการตรวจสอบความไม่ชอบมาพากล ที่หลายเรื่องก็ทำเอาระดับบิ๊กๆ เสียรังวัด โดนเช็กบิลไปไม่น้อย แต่ขณะเดียวกัน ก็ทำเอาคนไม่รู่อีโหน่อีเหน่ พลอยเดือดร้อนไปด้วยก็มี
ส่วนอีกคน ทั้งในฐานะนักการเมือง และอดีตแกนนำนักเคลื่อนไหว กลุ่ม นปช.ที่เคยโด่งดังในอดีต เคยเป็นขวัญใจของมวลชนคนเสื้อแดง ก่อนย้ายไปสนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติ
อ่านข่าว : https://www.thaipbs.or.th/news/content/336441
ครั้งนี้พลาดท่าเสียฟอร์ม กระทั่งนายตำรวจมือปราบประเภท “หมูไม่กลัวน้ำร้อน” อย่าง “ผู้การเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ยังเอ่ยปาก
งานนี้ (ผู้ถูกกล่าวหา) เหนื่อยแน่ เพราะไม่เพียงคลิปเสียงสนทนาที่พูดชัดเจน อ้างสามารถเคลียร์เรื่อง ล้างคราบให้อธิบดีได้ สามารถ “เอาอยู่” ไม่ให้เรื่องถูกร้องเรียนสามารถไปต่อ รวมถึงในชั้นกรรมาธิการที่มีเอ่ยชื่อ สส.ตัวตึงแล้ว
ยังมีหลักฐานอื่น อย่างแอพพิเคชั่นไลน์ ภาพถ่ายการไปพบผู้ถูกกล่าวหาที่บ้าน นอกจากนี้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยังให้สัมภาษณ์ยืนยันในพยานหลักฐานที่นำไปสู่การออกหมายจับ ทั้งเส้นทางการเงิน คลิปเสียง และพยานหลักฐานอื่น
ผลที่เกิดขึ้นตามมา ปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่งผลต่อชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือทางการเมืองด้วยเช่นกัน เพราะทั้งนายยศวริศ และเลขาการ์ตูน เป็นคนของพรรครวมไทยสร้างชาติ และยังได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะทำงาน เขตตรวจราชการที่ 11 (นครพนม สกลนคร และมุกดาหาร)
นายยศวริศถูกถอดพ้นตำแหน่งเดือน ธ.ค.2566 ก่อนที่ น.ส.พิมพ์ณัฐฐา จะโพสต์ข้อความว่าได้รับแต่งตั้งเป็นคณะทำงานชุดดังกล่าว เมื่อวันที่ 26 ม.ค.2567 โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เป็นผู้ลงนาม
อ่านข่าว : เปิด 4 โครงการ "ศรีสุวรรณ" เตรียมร้อง "บิ๊กกรมข้าว"
ก่อนที่นายเอกนัฎ พร้อมพันธ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ จะโพสต์ข้อความผ่านแพลทฟอร์ม X ว่า ถูกปรับออกทันทีเพียง 1 วัน ถัดมา ซึ่งเป็นวันปฏิบัติการรวบตัวกลุ่มรีดเงินอธิบดีกรมการข้าว แม้นายพีระพันธ์ ออกโรงยืนยันเป็นเรื่องตัวบุคคล ไม่เกี่ยวกับพรรค
ประเด็นการมีตำแหน่งทางราชการหรือไม่ เป็นเรื่องที่กูรูทางกฎหมายตั้งข้อสังเกตและวิพากษ์ไม่น้อย เพราะหากนายยศวริศ และ น.ส.พิมพ์ณัฐฐา ไม่มีตำแหน่งระหว่างเกิดพฤติการณ์นี้ จะไม่สามารถตั้งข้อกล่าวหาสนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐ เรียกรับทรัพย์หรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ ต่อนายศรีสุวรรณได้ จากทั้งหมด 3 ข้อหาที่นายศรีสุวรรณโดน
อ่านข่าว : ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนจับ “ศรีสุวรรณ” เรียกรับ 1.5 ล้าน “อธิบดีกรมการข้าว” แลกไม่ยื่นร้องเรียน
ไม่ต่างจากประเด็นข้อสงสัย หากโครงการของกรมการข้าวโปร่งใส ปราศจากความไม่ชอบมาพากลใด ๆ เหตุใดจึงมีการเจรจาต่อรองและยอมจ่ายเงินจาก 3 ล้านเป็น 1.5 ล้านบาท แต่อาจมีเหตุผลเรื่องดึงเวลา เพื่อรอรวบรวมหลักฐานมัดตัวให้แน่นหนาเสียก่อนเข้ามาชดเชยได้
แต่ปฏิบัติการหนึ่งที่ได้เห็นในเรื่องนี้ คือการเปิดหน้าสู้แบบไม่กลัวใครของภรรยาอธิบดีกรมการข้าว ที่ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ และแทบจะทำทุกอย่างแทนสามี
แต่สิ่งที่มองข้ามไปไม่ได้เลย คือ บทเรียนสำคัญของนักร้องเรียนทั้งหลายที่พึงต้องตระหนักว่า เมื่อร้องเรียนให้ตรวจสอบคนอื่นได้ ก็ต้องพร้อมสำหรับการให้ตรวจสอบจากคนอื่นเช่นกัน
ไม่เช่นนั้น จะโดนแบบกรณีนี้
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา